ระยอง - เต่าตนุเพศผู้ฝังชิป อายุ 20 ปี ตายเกยตื้นริมชายหาดสวนสน ชาวบ้านลือเพราะพิษคราบน้ำมันรั่ว
วันนี้ (13 ส.ค.) นายมนตรี หามนตรี หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปราม ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากเครือข่ายประมงพื้นบ้านสวนสน ว่า มีเต่าตนุตายเกยตื้นที่ชายหาดสวนสน ตรงข้ามสวนรุกขชาติเพ ต.แกลง อ.เมือง จึงประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก และตำรวจสภ.เพ ไปตรวจสอบ และขนย้ายไปไว้ที่ศูนย์อนุรักษ์ ท่ามกลางชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่มามุงดูซากเต่าตนุ
เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ กล่าวว่า เต่าตนุเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 90-100 กิโลกรัม ลำตัวกว้าง 30.3 นิ้ว ยาว 32 นิ้ว อายุประมาณ 20-25 ปี ตรวจสอบเบื้องต้นพบกระดองหลังมีรอยแตก สภาพขึ้นอืด มีกลิ่นเน่าเหม็น คาดว่าตายมาแล้ว 3-5 วัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจชิปโค้ดที่บริเวณปีกซ้ายด้านหน้าตรงกับหมายเลขประจำตัวเต่าของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
นายมนตรี กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ให้เฝ้าระวังสัตว์ทะเลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุคราบน้ำมันของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วไหลกลางทะเล และพัดเข้ามาบริเวณชายฝั่งเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้ประสานกับเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านให้แจ้งเหตุ หากพบการเสียชีวิตของสัตว์ทะเล โดยเต่าตนุที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ถือเป็นตัวแรกหลังจากเกิดเหตุคราบน้ำมันรั่วไหล ส่วนสาเหตุการตายต้องให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ผ่าพิสูจน์ให้ทราบแน่ชัดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่มายืนมุงดูต่างพากันสลดใจ และวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เต่าตนุ อาจตายเพราะพิษคราบน้ำมัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยเก็บซากเต่าตนุไปโดยไม่ยอมให้บันทึกภาพ ทำให้ยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าเต่าตนุตายเพราะพิษคราบน้ำมันหรือไม่ จึงห้ามบันทึกภาพ