ชาวบ้านอ่าวน้อยโวยถนนพัง หน่วยงานรับผิดชอบ “อบจ.-ทางหลวง” โยนกันมั่ว

ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านอ่าวน้อย เมืองประจวบคีรีขันธ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลังจากถนนสายหลัก เพชรเกษม-บ้านหนองไม้แก่น-เนินแก้ว ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อไม่ผิดกับผิวโลกพระจันทร์ เสียหายยาวเกือบ 10 กม. มานานหลายปี ไม่มีหน่วยงานใดมาเหลียวแล จนสุดทนชาวบ้านรวมตัวนำต้นมะพร้าว สับปะรด กล้วย ไปปลูกกลางถนนเพื่อประจานหน่วยงานที่รับผิดชอบ “นายก อบจ.ประจวบฯ” ปฏิเสธพร้อมโยนเป็นความรับผิดชอบของนทางหลวงชนบท ขณะที่ “ทางหลวงชนบท” ยันยังอยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ. ด้านผู้ว่าฯ สวดยับปล่อยชาวบ้านเดือดร้อนทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบ

วันนี้ (11 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักถึงปัญหาถนนสายเพชรเกษม-บ้านหนองไม้แก่น-เนินแก้ว เสียหายเป็นระยะทางยาวเกือบ 10 กิโลเมตร แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข่ามาดูแลซ่อมแซมมานานหลายปี ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และนำพืชไร่การเกษตร ต้นมะพร้าว สับปะรด กล้วย มาปลูกกลางถนนเพื่อประท้วงหน่วยงานรับผิดชอบ

นายวุฒิ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหนองเสือ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีถนนลาดยางสายเพชรเกษม-หนองไม้แก่น-เนินแก้ว ระยะทางประมาณเกือบ 10 กิโลเมตร ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในขณะนี้ เป็นหลุมเป็นบ่อเล็กใหญ่ เป็นถนนที่ประชาชนใช้ร่วมกันในหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 15 ต.อ่าวน้อย และหมู่ที่ 7 ต.เกาะหลัก กว่า 400 ครัวเรือน ใช้เป็นเส้นทางสัญจรหลักเข้าตัวเมืองประจวบฯ เพื่อนำพืชผลการเกษตรไปสู่ตลาด นอกจากนี้ เด็กนักเรียนใช้เดินทางไปเรียนในเมือง ยิ่งหน้าฝนเดือดร้อนหนักเพราะมองไม่เห็นหลุม

“สำหรับถนนสายนี้มีการก่อสร้างมานานประมาณ 15 ปี ได้ชำรุดทรุดโทรมมานานหลายปี เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ประชาชนได้รับความลำบากในการเดินทาง และเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ที่ผ่านมา พวกเราชาวบ้านได้ช่วยกันลงขันเรี่ยไรเงินมาซ่อมแซมตลอดเวลา แต่ตอนนี้ซ่อมกันไม่ไหวแล้ว เพราะต้องใช้ปูน 4-5 ตัน และที่ผ่านมา ไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความสนใจเข้ามาซ่อมแซมถนนเส้นดังกล่าว ซึ่งทราบว่าถนนเส้นนี้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประจวบคีรีขันธ์ ที่จะต้องซ่อมแซม”

นายมานะ เนียมสมบัติ อายุ 46 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนนสายที่ได้รับความเสียหาย กล่าวด้วยว่า ชาวบ้าน และนักเรียนเดือดร้อนกันมานานแล้ว ไม่มีใครอยากที่จะไปเรียกร้องอะไร แต่มันสุดทนกันแล้ว เหลืออดจริงๆ ที่ถนนพังผู้รับผิดชอบก็ไม่มาซ่อมแซมกัน เวลามีคนเจ็บไข้ได้ป่วยไปโรงพยาบาลก็ได้รับความเดือดร้อน ตอนนี้หน่วยงานก็โยนกันไปมา ทั้งๆ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน วันนี้จึงเอาพืชผลทางการเกษตรมาปลูกประจานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พวกเราชาวบ้านก็ซ่อมกันไม่ไหวแล้ว ต้องมานั่งออกเงินกันเอง พวกที่รับผิดชอบกลับนิ่งดูดาย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อก่อนกรมทางหลวง หรือทางหลวงชนบท ได้ถ่ายโอนมาให้ท้องถิ่นทั่วประเทศ นี่คือปัญหาที่โอนงานมาให้แต่ไม่มีงบประมาณมาให้ จนกระทั่งกรมส่งเสริมได้ประสานกับทางหลวงชนบทแจ้งความประสงค์ไปให้ท้องถิ่นทั่วประเทศว่าท้องถิ่นไหนไม่สามารถดูแลได้ให้ส่งคืนทางหลวงชนบทได้ ซึ่งทาง อบจ.ได้ส่งคืนไปทั้งหมด 20 เส้นทาง หรือประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร รวมถึงเส้นทางที่ร้องเรียนนี้ด้วย อบจ.ได้ส่งคืนให้ทางหลวงชนบท แล้วตั้งวันที่ 17 เม.ย.56 มีเอกสาร มีการลงรับของเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทอย่างถูกต้อง

“อยากฝากบอกชาวบ้านว่า ถนนเส้นนี้เมื่อก่อนเคยเป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จริง แต่ได้คืนให้แก่กรมทางหลวงไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ไม่เกี่ยวข้องกับ อบจ.” นายทรงเกียรติ กล่าว

ด้านนายไพบูลย์ เรืองยุวนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบท จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงว่า ถนนสายเพชรเกษม-หนองไม้แก่น-เนินแก้ว ตอนนี้ยังเป็นความรับผิดชอบของ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์อยู่ เพราะหนังสือที่ทำไปเมื่อต้นปีงบประมาณเป็นหนังสือที่ต้องการให้ทางท้องถิ่นแสดงเจตจำนงมาเฉยๆ ว่า มีถนนเส้นไหนจะถ่ายโอนคืน ซึ่งตามระเบียบของคณะกรรมการกระจายอำนาจยังไม่ได้ให้เรารับ เพียงแต่เราทำหนังสือถึงท้องถิ่นให้เสนอมาและส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการกระจายอำนาจว่า ท้องถิ่นมีความประสงค์ถ่ายถนนคืนมาให้แก่ราชการ โดยเราก็ส่งเรื่องไปก่อนแล้วทางคณะกรรมการกระจายอำนาจจะนำไปประชุมชี้แจงหาหลักเกณฑ์กันอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ผลสรุปกลับมา

“จริงๆ แล้วเรายังไม่ได้รับโอนเพียงแต่ต้องการให้ท้องถิ่นแสดงเจตจำนงเฉยๆ ว่า อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ มีถนนเส้นไหนอยากจะถ่ายโอนคืน เราก็จะส่งเรื่องไปว่ามีถนนจำนวนเท่าไร ดังนั้นแล้วถนนเส้นดังกล่าวยังคงเป็นของ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่จะต้องรับผิดชอบในการซ่อมแซมต่อไป” นายไพบูลย์กล่าว

ทางด้าน นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นพบว่า ถนนสายดังกล่าวยังอยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทาง อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ควรจะไปดำเนินการซ่อมแซมให้ชาวบ้าน ไม่ใช้ปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนมานานแบบนี้