“วราเทพ” แจงหลายฝ่ายพร้อมร่วมเวทีปฏิรูป ยันรัฐบาลไม่มีธง ผลสรุปขึ้นอยู่กับทุกฝ่าย

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “วราเทพ” แจงเวทีปฏิรูปการเมืองหลายฝ่ายตอบรับเข้าร่วม เผยอดีตผู้มีตำแหน่งทางการเมืองได้พอแล้ว ส่วนกลุ่มที่มีความขัดแย้งรอดูท่าที ปชป.-พธม.อยู่ พร้อมเตรียมนำเสนอ นรม.สัปดาห์หน้าหาเวลาเปิดเวที มั่นใจเริ่มครั้งแรกภายในเดือน ส.ค.แน่ ระบุรัฐบาลแค่เริ่มเวที ส่วนจะไปต่อยังไงขึ้นอยู่กับผู้ร่วมหารือ ยันไม่มีธงอะไรในใจ หวังเห็นเพียงข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกฝ่ายยอมรับ

วันนี้ (10 ส.ค.) นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจัดเวทีปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศว่า เบื้องต้นมีการตอบรับในระดับตัวแทน หรือผู้ที่เคยมีตำแหน่งทางการเมือง อย่างเช่น อดีตนายกรัฐมนตรี หรืออดีตประธานรัฐสภามาแล้วมากพอสมควร ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการ

อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือในส่วนของกลุ่มที่มีความขัดแย้ง อย่างเช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังไม่ตอบรับ ขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เชื่อมั่นว่าน่าจะเข้าร่วมเวทีโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้น คงจะต้องรอดูว่าจะมีท่าทีอย่างไร สำหรับพรรคการเมืองอื่นๆ นั้น น่าจะมีการตอบรับครบถ้วนแล้ว โดยพรรคภูมิใจไทยก็ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วม และในบ่ายวันนี้ ตนจะเข้าพบกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือเพื่อพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าว

นายวราเทพ กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชน และกลุ่มนักวิชาการนั้นมีการตอบรับอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมรายชื่อเพื่อส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะพร้อมนำเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาว่าจะเรียกทุกฝ่ายเข้าร่วมหารือในรอบแรกเมื่อใด ซึ่งในเบื้องต้นน่าจะเป็นช่วงเวลาภายหลังการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาผู้แทนราษฎร แต่เชื่อว่าภายในเดือน ส.ค.จะเกิดการหารือในเวทีปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีต้องการเห็นอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การหารือในเวทีปฏิรูปการเมืองอาจมีผลต่อการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร หรือนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายวราเทพ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีความเป็นไปได้ แต่อยากจะให้มองว่าการจัดตั้งเวทีปฏิรูปการเมืองนั้นมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมืองของประเทศ เป็นการมองไปข้างหน้ามากกว่า ทั้งนี้ หากตัวแทน หรือผู้เข้าร่วมหารือแต่ละฝ่ายจะมีข้อเสนอแนะ หรือข้อสรุปอย่างหนึ่งอย่างใด แล้วเรื่องนั้นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการนิรโทษกรรม หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ปิดกั้น เพราะรัฐบาลบอกเสมอว่าเป็นเพียงผู้ริเริ่มให้เกิดเวทีดังกล่าวขึ้นเท่านั้น ส่วนรูปแบบการหารือ และข้อสรุปที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่มาร่วมหารือทุกฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกัน

นายวราเทพ ระบุว่า รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเป้าหมายใดๆ ในการเปิดเวทีปฏิรูปการเมือง นอกจากต้องการเห็นข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด และเป็นข้อสรุปที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการหารือในเวทีปฏิรูปจะประสบความสำเร็จได้นั้น ทุกฝ่ายที่มาร่วมหารือกันจะต้องวางความต้องการ หรือเงื่อนไขของตัวเองลงเสียก่อน เพื่อให้การหารือสามารถดำเนินไปได้ และเกิดผลสำเร็จ