ชี้“สมีคำ”ไม่เกี่ยวข้องกับสงฆ์แล้ว เป็นเรื่องฝ่ายบ้านเมืองเชือดตาม กม.

ศรีสะเกษ - คณะสงฆ์ศรีสะเกษ ชี้ “สมีคำ” ไม่เกี่ยวข้องกับสงฆ์เพราะมีมติให้สึกแล้ว จึงเป็นเรื่องของฝ่ายบ้านเมืองที่ต้องดำเนินคดีตามกม.ต่อไป ขณะลูกศิษย์หงอย “ไอ้คำ” เบี้ยวไม่กลับ ส่วนเมียเผยคาดไว้ไม่ผิด ไม่กล้าโผล่หัวเหตุกลัวต้องรับผิดตาม กม.

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม หรือวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศทั่วไปยังคงเงียบเหงาต่อเนื่อง มีกรรมการวัด 3 คน มาคอยดูแลความเรียบร้อย และ ข่าวกรณี อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ เลื่อนวันกลับเข้ามาประเทศไทยเพื่อมอบตัวกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จากเดิมวันที่ 8 ส.ค.นี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด นั้น ได้สร้างความผิดหวังให้กับบรรดาพระลูกศิษย์และฆราวาสที่เป็นลูกศิษย์ของอดีตพระเณรคำเป็นอย่างมาก

พระครูธรรมธรคำไข ผู้ช่วยเลขานุการ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และได้รับมอบหมายทำหน้าที่ประธานสงฆ์ที่พักสงฆ์ขันติธรรม กล่าวว่า เรื่องของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระวิรพล ฉัตติโก นั้น ขณะนี้ถือว่าได้หลุดพ้นจากการพิจารณาเรื่องพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุตไปแล้วเพราะได้มีมติให้พระวิรพล สึกจากความเป็นพระไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากนายวิรพล ครองผ้าจีวรเข้ามาในประเทศไทย ก็เป็นเรื่องของฝ่ายบ้านเมืองที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งคดีความต่าง ๆ ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้แล้ว ฉะนั้นเรื่องของนายวิรพล จึงไม่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุตอีกต่อไป

“ขณะนี้คณะสงฆ์ศรีสะเกษ กำลังร่วมกับชาวบ้านและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการขอจัดตั้งที่พักสงฆ์ขันติธรรมให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเร่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนเกี่ยวกับวัดป่าขันติธรรมเพื่อให้เป็นแหล่งฝึกอบรมปฏิบัติธรรมของประชาชนอย่างสมบูรณ์ต่อไป” พระครูธรรมธรคำไข กล่าว

ขณะที่ น.ส.หญิง (นามสมมุติ) ชาว อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ที่ออกมาเปิดตัวว่าเป็นเมียและมีลูกชายกับอดีตพระวิรพล กล่าวว่า กรณีอดีตหลวงปู่เณรคำจะไม่เข้ามอบตัวกับ ดีเอสไอในวันที่ 8 ส.ค. นั้น เป็นไปตามที่ตนได้คาดหมายไว้ เนื่องจากหากเข้ามามอบตัวก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในหลายข้อหา รวมทั้งต้องมาขึ้นศาลเพื่อสู้คดีกับตนที่ให้ทนายความฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาทเอาไว้ อย่างไรก็ตามอยากให้นายวิรพล กลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อจะได้เคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดและรับผิดชอบเลี้ยงดูลูกชายอายุ 11 ขวบ ให้มีความอบอุ่น และได้เรียนหนังสือมีอนาคตที่ดีต่อไป