xs
xsm
sm
md
lg

อดีต ผอ.หวั่นโอนสังกัด “พิงคนคร” ทำสวนสัตว์เชียงใหม่เละ-ผอ.พิงคนครแจงแล้วแต่นโยบายรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อดีต ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ และรอง ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ ระบุความพยายามโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ไปสังกัด “พิงคนคร” ต้องโปร่งใส อย่ารวบรัด รีบร้อน และงุบงิบดำเนินการ วอน รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ และคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ พิจารณารอบคอบและรอบด้าน ยอมรับเป็นห่วงโอนย้ายแล้ววัตถุประสงค์ผิดเพี้ยน-ไร้คนรับผิดชอบหากการดำเนินงานล้มเหลว ด้าน ผอ.พิงคนครบอกขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล เชื่อรวมเพื่อบูรณาการด้านการท่องเที่ยวไม่ใช่มุ่งหากำไร ยันทำอะไรเกี่ยวกับสวนสัตว์เชียงใหม่มีแต่ต้องให้ก้าวหน้าไม่ใช่ถอยหลัง

จากกรณีมีกระแสข่าวว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขอให้พิจารณาดำเนินการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่ปัจจุบันสังกัดองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น

นายทนง นทีพิทักษ์ อดีตผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และอดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ แสดงความเห็นว่า เท่าที่ทราบเบื้องต้นมองว่าความพยายามดังกล่าวยังไม่ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย จุดประสงค์หรือวิธีการดำเนินงานใดๆ ที่ชัดเจนเลย ซึ่งส่วนตัวมีความเห็นว่าหากต้องการที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจริงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการให้ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่ครบถ้วนชัดเจนต่อสาธารณะเสียก่อนว่ามีเหตุผลและความจำเป็นอย่างไรที่จะต้องโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) แล้วให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นว่าสมควรจะดำเนินการอย่างไร

ทั้งนี้ การที่มีการทำหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วรัฐมนตรีมีการส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อพิจารณาดำเนินการเรื่องนี้นั้น เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่รวบรัดเกินไป และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกตำหนิเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ เนื่องจากทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นานเท่านั้น จึงอาจจะยังไม่ได้มีการศึกษางาน ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์การสวนสัตว์ฯ มากพอ ในขณะที่คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ ก็มาจากรัฐมนตรีด้วย ซึ่งการจะดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้นั้นอยากจะเน้นย้ำให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและมีข้อมูลรอบด้าน

อดีตผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และอดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสวนสัตว์เชียงใหม่ สังกัดองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยการดำเนินการอยู่ภายใต้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. 2497 การดำเนินการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันถือว่าสวนสัตว์เชียงใหม่มีการพัฒนาและเจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปในอนาคตด้วย

ขณะที่วัตถุประสงค์หลักดั้งเดิมตั้งแต่ก่อตั้งสวนสัตว์เชียงใหม่ก็คือการดูแลอนุรักษ์สัตว์นานาชนิดที่ถือเป็นสมบัติของประชาชนและส่วนรวมไม่ให้สูญพันธุ์ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาและอำนวยบริการแก่ประชาชนอย่างแท้จริงโดยไม่มุ่งเน้นผลกำไร แต่หากมีการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่จริงนั้น ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าการดำเนินการจะยังคงมีวัตถุประสงค์เดิมดังเช่นเมื่อครั้งที่เริ่มทำการก่อตั้งหรือไม่ และถ้าสมมติว่าการดำเนินงานของสวนสัตว์เชียงใหม่หลังการโอนย้ายเกิดไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

“ทุกวันนี้การดำเนินงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ต้องถือว่ามีความก้าวหน้าด้วยดี และพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอยู่แล้ว แต่หากมีความพยายามที่จะโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ไปยังสังกัดใหม่ สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยจะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ออกมาให้ชัดเจนว่ามีนโยบายอย่างไร มีความจำเป็นอย่างไร โอนย้ายไปทำไม แผนการดำเนินงานเป็นอย่างไร เป็นต้น ให้เป็นที่รับรู้รับทราบโดยทั่วกันทั้งคนในองค์กรและคนทั่วไป แล้วมาระดมความเห็นกันว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรกับเรื่องนี้ ซึ่งอยากจะเสนอว่าการดำเนินการเรื่องนี้จะต้องทำอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ใช่เร่งรีบ รวบรัด รีบร้อน หรืองุบงิบดำเนินการ” นายทนงกล่าว

ด้าน ดร.ศราวุฒิ ศรีสกุน ผู้อำนวยการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กล่าวถึงกรณีการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ว่า ตนได้ทราบข่าวตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ แต่ในส่วนของรายละเอียดการดำเนินการหรือกระบวนการในการควบรวมองค์กรทั้งสองนั้นยังไม่ทราบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งรัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์คงจะต้องมีการพูดคุยหารือกันในรายละเอียดอีกมากหากจะดำเนินการควบรวมองค์กรเข้าด้วยกัน แต่ในส่วนของตนซึ่งดูแลรับผิดชอบสำนักงานพัฒนาพิงคนครนั้น หากมีการรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้ามาสังกัดในองค์กรด้วยก็พร้อมที่จะดำเนินการและไม่มีปัญหาในเรื่องการรวมองค์กรเข้าด้วยกันแต่อย่างใด

ดร.ศราวุฒิกล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้ติดตามการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เห็นว่าหลายฝ่ายยังมีความกังวลและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการควบรวมองค์กร ซึ่งตนในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ในลักษณะนี้มาก่อนเห็นว่าการควบรวมองค์กรเข้าด้วยกันนั้นสามารถทำได้ เหมือนเมื่อครั้งที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาซึ่งสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับสำนักงานพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีซึ่งเป็นองค์กรมหาชนรวมเข้าด้วยกัน ส่วนการที่พนักงานของสวนสัตว์เชียงใหม่อาจวิตกว่าการไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนครจะมีผลกระทบต่อรายได้หรือสวัสดิการนั้น เมื่อครั้งที่พนักงานจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีโยกย้ายไปสังกัดกับสำนักงานพัฒนาพิงคนครนั้นก็มีรายได้และสวัสดิการไม่ด้อยกว่าเดิม และบางส่วนยังเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่ยังสังกัดหน่วยงานเก่าอีกด้วย

ส่วนกรณีที่ว่าการนำสวนสัตว์เชียงใหม่ไปรวมกับสำนักงานพัฒนาพิงคนครแล้วจะทำให้ในอนาคตสวนสัตว์เชียงใหม่เน้นหนักไปที่การสร้างรายได้นั้น ดร.ศราวุฒิกล่าวว่าน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากกว่า เพราะหลักการของสำนักงานพัฒนาพิงคนครเองก็เป็นองค์กรของรัฐที่ไม่ได้มุ่งเน้นการแสวงหาผลกำไร เพียงแต่ต้องการให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ทั้งนี้ ตนมองว่าการที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะรวมองค์กรเข้าด้วยกันนั้นก็เพราะต้องการให้เกิดการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและเกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในภาพรวมมากกว่า เพราะหากองค์กรเข้ามารวมกันแล้ว ในอนาคตเมื่อมีการทำตลาดให้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ก็สามารถพ่วงการท่องเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่หรือไนท์ซาฟารีเข้าไปด้วยได้ ขณะเดียวกันยังจะช่วยลดขั้นตอนในการทำตลาดซึ่งที่ผ่านมาเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ ให้กลายเป็นมีหน่วยงานที่เข้ามาเป็นตัวแทนทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบแทน

ผู้อำนวยการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า สวนสัตว์เชียงใหม่นั้นถือเป็นสถานที่สำคัญที่ได้รับความสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก หากจะมีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับสวนสัตว์เชียงใหม่ มีแต่จะต้องพัฒนาให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น คงจะไม่มีใครที่คิดปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แย่ลงกว่าเดิม เพราะเมื่อสวนสัตว์เชียงใหม่เจริญก้าวหน้าขึ้นก็จะยิ่งดึงดูดให้คนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น