กาญจนบุรี - สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ-อำเภอสังขละบุรี ยังน่าห่วง มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำถุงยังชีพพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยวันนี้
วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะช่วงค่ำของวานนี้ (30 ก.ค.) ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลทองผาภูมิ และเขตเทศบาลตำบลท่าขนุน ถนนแสงชูโต สาย 323 อำเภอทองผาภูมิ-สังขละบุรี ระหว่างตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 146 บริเวณทางเข้าหน่วยทหารพัฒนาที่ 11 น้ำป่าได้ไหลหลากลงในลำคลองที่อยู่ใกล้กันเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนสายดังกล่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปริมาณน้ำสูง 50-60 เซนติเมตร รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่ที่บรรทุกสินค้าไปส่งในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ต้องวิ่งผ่านด้วยความระมัดระวัง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบอกเส้นทางให้
โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยทหารพัฒนาที่ 11 นำเครื่องจักร พร้อมกำลังพล และอุปกรณ์ต่างๆ เร่งเคลียร์จุดพื้นที่ที่มีดินไสลด์ทับถมพื้นผิวการจราจร และเศษสวะที่ขวางเส้นทางน้ำไหลเพื่อให้กระแสน้ำไหลได้อย่างสะดวก การสัญจรเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารในสังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จัดการจารจรด้วยการวางกำลังเป็นจุด พร้อมส่องไฟให้สัญญาณเพื่อให้คนขับรู้เส้นทางที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า ได้นำกำลังมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนเพื่อขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ในที่ปลอดภัย
พ.อ.นภดล ปิ่นทอง ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 11 จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ฝนได้ตกติดต่อกันมาหลายวัน ประกอบกับน้ำป่าที่ไหลมาจากบนภูเขาเข้ามาสมทบจึงทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก น้ำได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ดังนั้น หลังเกิดเหตุจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งจัดกำลังพลออกไปดูแล และช่วยเหลือประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วม และจัดอุปกรณ์เครื่องจักรไปเปิดทางเดินระบายน้ำ รวมถึงจัดการจารจรให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เลี่ยงไปใช้เส้นทางที่ปลอดภัยแทน ขอฝากเตือนประชาชนที่มีบ้านอยู่ตามเส้นทางน้ำไหลให้เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ หากคิดว่าไม่ปลอดภัย ขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที ทหารพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
“นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนระวังสัตว์มีพิษโดยเฉพาะงูชนิดต่างๆ หรือตะขาบ และแมงป่อง อาจจะหนีน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายก็เป็นได้ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่กำลังขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม หากประชาชนต้องการมอบสิ่งของก็สามารถนำมามอบให้ที่หน่วยทหารพัฒนาที่ 11 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” พ.อ.นภดล ปิ่นทอง ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 11 กล่าว
รายงานข่าวว่า สำหรับถนนสาย 323 จากอำเภอทองผาภูมิ มุ่งหน้าไปยังอำเภอสังขละบุรี พื้นผิวการจราจรตลอดเส้นทางมีน้ำไหล และขังเป็นช่วงๆ ทำให้ถนนลื่น อีกทั้งผิวการจราจรยังถูกน้ำกัดเซาะเป็นหลุมเป็นบ่อเกือบตลอดเส้นทาง บางช่วงไหล่ถนนถูกน้ำเซาะจนยุบเป็นวงกว้าง ผู้สัญจรไปมาต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง สำหรับบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 146 หมู่ 4 ต.ท่าขนุน มีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภูเขาเข้าท่วมร่องระบายน้ำข้างทางสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และเอ่อล้นท่วมผิวการจราจร 1 เลน โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวขับรถกลับจากอำเภอสังขละบุรีมุ่งหน้ากลับจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อมาถึงจุดดังกล่าว พบรถยนต์กระบะตกลงไปในร่องระบายน้ำข้างถนนโดยมีชายวัยกลางคนเป็นผู้ขับขี่อยู่ภายในรถ และพยายามที่จะขับรถเพื่อฝืนนำรถยนต์ขึ้นมา ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปให้ความช่วยเหลือเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่ชายคนดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะลงจากรถ และพยายามเร่งเครื่องเพื่อหาทางนำรถขึ้นมา ผู้สื่อข่าวจึงทำได้แต่เพียงโบกรถและส่งสัญญาณมือเพื่อให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาทราบ เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง โดยชายคนดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถนำรถขึ้นมาได้สำเร็จ ท่ามกลางประชาชนที่คอยให้กำลังใจ และบอกเพียงว่าขับรถมาดีๆ รถก็ลื่นไถลลงไปในร่องระบายน้ำ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ขับรถมุ่งหน้าไปทางอำเภอสังขละบุรีทันที
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำถุงยังชีพพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม คาดว่าเวลาประมาณ 13.30 น. จะเดินทางไปถึง