xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมประกาศ 7 อำเภอกาญจน์เป็นพื้นที่ภัยแล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ปภ.กาญจน์ เตรียมประกาศพื้นที่ภัยแล้ง 7 อำเภอ เชื่อหากภายใน 2 อาทิตย์ฝนไม่ตก ประชาชนกว่า 1 แสนคนเดือดร้อนแน่นอน ด้าน ทต.สระลงเรือ ร่วมกับกองพันทหารปืนใหญ่ ร.19 เร่งแจกน้ำอุปโภคบริโภค หลังภัยแล้งเล่นงานหนัก

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (22 เม.ย.) นายเอกภพ จันทร์เพ็ญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี (ปภ.) เปิดเผยว่า ปภ.กำลังเตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งรวม 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอท่าม่วง อำเภอพนมทวน อำเภอห้วยกระเจา อำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ และอำเภอเลาขวัญ ซึ่งหากภายในระยะเวลา 1-2 อาทิตย์ข้างหน้า หากฝนยังไม่ตกลงมาจะมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 49 ตำบล 442 หมู่บ้าน ประชากรเดือดร้อน 46,843 ครัวเรือน และราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 123,493 คน ส่วนพื้นที่เกษตรกรจะเสียหายรวมกันประมาณ 27,570 ไร่

ด้านนายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายวานิจ ปิ่นกุมภีร์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ จ.อ.มนต์ชัย แก้วมณี เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาตำบลสระลงเรือ และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ ร.19 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เร่งนำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่าย หลังจากประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 5 เดือน ด้าน ปภ.กาญจน์ เผยหากในระยะเวลาอีก 2 อาทิตย์ ฝนยังไม่ตก เชื่อว่าประชาชนกว่า 1 แสนคนต้องเดือดร้อน พืชไร่กว่า 2 หมื่นไร่เสียหายแน่นอน

นายอนุชา สุขเชิงชาย กล่าวว่า ตำบลสระลงเรือมี 17 หมู่บ้าน 2,249 ครัวเรือน ประชากร 7,363 คน ภูมิประเทศมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ สภาพพื้นที่เป็นดินทราย ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ปัจจุบัน ชาวบ้านกำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงไม่ตกติดต่อกันมาตั้งแต่ปลายปี 2555 ทำให้แหล่งน้ำที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวเริ่มแห้งขอด ส่งผลให้ไม่สามารถผลิตน้ำประปาให้บริการแก่ประชาชนได้ ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้อย่างหนัก ปัจจุบัน เทศบาลมีรถบรรทุกน้ำเพียง 1 คัน ซึ่งไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงขอความอนุเคราะห์ไปยังกองพันทหารปืนใหญ่ ร.19 และได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีด้วยการนำเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมรถบรรทุกน้ำมาประจำที่เทศบาล จำนวน 1 คัน

โดยไปบรรทุกน้ำที่การประปาส่วนภูมิภาคอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร วันละ 5 เที่ยว 2 คัน ก็เป็น 10 เที่ยว เฉพาะค่าน้ำมันรถต่อคันตกวันละประมาณ 2,500 บาท รวม 2 คัน วันละ 5,000 บาท ไม่รวมค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าอาหารของเจ้าหน้าที่ โดยรายจ่ายทั้งหมดทางเทศบาลเป็นผู้จ่ายเอง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประชาชนในพื้นที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ และขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด หากครอบครัวใดไม่มีน้ำใช้ก็ให้ครอบครัวที่มีช่วยเหลือจุนเจือกันไปก่อนจนกว่าจะมีฝนตกลงมา

“และจากการสำรวจปริมาณน้ำของสระน้ำทุ่งทำนบ ที่อยู่ในพื้นที่ หมู่ 2 เนื้อที่กว่า 60 ไร่ ก็พบว่า น้ำที่มีเกือบแห้งขอดแล้ว ทำให้ประชาชน หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 13 และหมู่ 17 ทั้งหมดต้องเดือดร้อน นอกจากนี้ จากสภาพความแห้งแล้งยังทำให้พืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย กำลังจะแห้งตาย และยังถูกตัวหนอนที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินกัดกินรากอ้อยจนเสียหายอีกด้วย” นายอนุชากล่าว

นางประสาน กลิ่นโฉม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 1 ต.สระลงเรือ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำไร่ทำนา ปัจจุบันครอบครัวของตน รวมทั้งเพื่อนบ้านทุกครัวเรือนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากฝนไม่ตกมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ขณะนี้พืชไร่กำลังจะแห้งตาย ส่วนน้ำดื่มน้ำใช้ก็เริ่มขาดแคลน ที่ผ่านมา ได้รับความช่วยเหลือจากทางเทศบาล แต่ก็ไม่เพียงพอ วันไหนน้ำหมดก็ไปขอจากญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านที่เขามี ที่ผ่านมา ก็แล้งเป็นประจำทุกปี แต่ไม่เคยแล้งหนักเท่าปีนี้มาก่อน ส่วนน้ำบาดาลที่มีอยู่ในหมู่บ้านใช้แรงโยกยังไงก็ไม่มีน้ำขึ้นมาจนเสียหายทั้งหมด



กำลังโหลดความคิดเห็น