ลำปาง - เกิดอุบัติเหตุระทึกบนถนนลำปาง-แพร่ หลังรถทัวร์ 2 ชั้นนำครู-นักเรียน ร.ร.สามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย ไปร่วมงานวันวิทยาศาสตร์ที่เมืองแพร่ เจอรถพ่วงหักหลบต้นไม้ล้มขวางถนนจนต้องหักหลบบ้าง ทำรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง โชคดีไร้คนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
วันนี้ (29 ก.ค.) ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง รับแจ้งอุบัติเหตุรถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้นแฉลบพุ่งตกลงไปข้างทางบริเวณ กม. 49 เขตบ้านแม่ตีบ หมู่ 2 ต.แม่ตีบ อ.งาว จ.ลำปาง ส่งผลทำให้กระจกหน้ารถแตก เนื่องจากชนเข้ากับต้นไม้ จึงประสาน สภ.งาว และหน่วยกู้ภัยเดินทางไปตรวจสอบ
ต่อมา ร.ต.ท.สันติ กานแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.งาวมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่ารถทัวร์ที่เกิดเหตุเป็นของ หจก.เชียงรายอาลีทัวร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 32-0659 กรุงเทพมหานคร ที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 เช่าเพื่อนำนักเรียนเดินทางไปร่วมงานวันวิทยาศาสตร์ที่ จ.แพร่ มีนายสุรศักดิ์ ยอดขอด อายุ 49 ปี ชาว อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นคนขับ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางตรงลงเขาห่างจาก จ.แพร่ประมาณ 60 กิโลเมตร มีต้นสักหักล้มขวางถนน และมีรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อของบริษัท เกษมทรัพย์ทรานสปอร์ต จำกัด ทะเบียน 7-7356 พระนครศรีอยุทธยา ซึ่งมีนายรัตนชาติ ศุภกิจ อายุ 47 ปี ชาว อ.หนองแซง จ.สระบุรี ขับหลบต้นไม้ที่โค่นปิดเส้นทางมาอยู่ในเลนที่รถทัวร์กำลังวิ่งลงเขามา ทำให้รถทัวร์หักหลบ ก่อนเฉี่ยวรถบรรทุกแล้วพุ่งลงไปข้างทาง จากนั้นก็ได้พุ่งชนพุ่มไม้ และต้นไม้
ส่วนรถยนต์ตู้ของโรงเรียนที่ขับตามกันมาอีก 2 คันก็ต้องเบรกอย่างกะทันหันและชนท้ายกัน แต่ทุกคนปลอดภัย เพียงแต่ก็สร้างความตกใจและเสียขวัญแก่คณะครู และนักเรียนที่นั่งมากับรถทัวร์คันดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนสามัคคีวิทยาคมจึงยกเลิกการนำนักเรียนเดินทางไปร่วมงานวันวิทยาศาสตร์ทันที พร้อมประสานรถทัวร์จาก จ.พะเยาเดินทางมารับเด็กนักเรียนทั้งหมดที่อยู่ในชุดนักเรียนออกจากจุดเกิดอุบัติเหตุเพื่อเดินทางกลับไปยัง จ.เชียงราย เนื่องจากนักเรียนบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ต้องนำไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลที่ จ.เชียงราย
สำหรับรถทัวร์ 2 ชั้นที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ได้วิ่งออกจาก จ.เชียงรายในช่วงเช้า โดยวิ่งมาถึง อ.งาว จ.ลำปาง ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในจุดที่เกิดเหตุ คนขับรถทัวร์ได้ขับมาอย่างช้าๆ ซึ่งหากขับรถเร็วอาจจะทำให้เกิดโศกนาฏกรรมหมู่ขึ้นได้
