“อภิสิทธิ์” ลุยสร้างเครือข่ายพรรค พบสมาชิก และสาขาพรรคที่กาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ - “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หน.พรรคประชาธิปัตย์ ควง อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคลงพื้นที่พบประธาน สมาชิก และเจ้าหน้าที่สาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.กาฬสินธุ์ ลุยสร้างเครือข่ายสื่อสารถึงประชาชนให้มากที่สุดในการทำหน้าที่ด้านการเมืองของพรรค ชี้รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาของแพง ส่วนบรรยากาศการประชุมไร้วี่แววแดงป่วนงาน

วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ห้องประชุมทศพร โรงแรมริมปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร นายอิสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาเป็นประธาน และร่วมกิจกรรมโครงการเสริมสร้างศักยภาพกรรมการสาขาพรรค เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคประชาธิปัตย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

โดยมี นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.กาฬสินธุ์ ระบบบัญชีรายชื่อให้การต้อนรับ พร้อมด้วยประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ กรรมการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกพรรคกว่า 500 คน ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งไร้วี่แววของเสื้อแดงที่จะปั่นป่วนในการประชุมครั้งนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทักทายกรรมการ และสมาชิกพรรคอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะขึ้นเวทีเพื่อเป็นประธานในการเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพกรรมการสาขาพรรคฯ และได้ใช้เวลาในการกล่าวบนเวทีนานกว่า 1 ชั่วโมง

นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาที่กระทบต่อประชาชนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะภาวะข้าวของขึ้นราคา และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเดินหน้าสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ยึดถืออุดมการณ์ จุดยืน และแนวคิดของพรรคมาโดยตลอด

นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ในเวลานี้ที่เป็นฝ่ายค้านได้ผ่านกฎหมายที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า 90% ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว แต่ในส่วนของกฎหมายานิรโทษกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรนั้น มองว่าเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะมีหลายๆ ฉบับจะเป็นการฟอกผิดให้แก่คนทำผิดมากกว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง

ความชัดเจนของพรรคคือ การคัดค้านนิรโทษกรรม และไม่มีแนวคิดที่จะเสนอนิรโทษกรรมจนกว่ารัฐบาลจะถอนทุกฉบับออกทั้งหมดแล้วมานั่งคุยกันว่าความผิดแบบไหนที่จะได้รับนิรโทษกรรม ซึ่งตอนนี้มีหลายกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว ทางพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง ส.ส.ของพรรคจะกำหนดท่าทีอีกครั้งหลังการประชุมพรรคในวันที่ 31 ก.ค. นี้

ทั้งนี้ หน้าที่ของรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาสินค้าราคาแพงที่ต้องเร่งดำเนินการ และต้องทำตามคำประกาศที่ได้ให้ไว้กับประชาชนตอนหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง ที่ตอนนี้ราคาน้ำมันก็แพงกว่าตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเสียอีก ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง ขณะที่ราคาแก๊สก็เตรียมปรับราคาขึ้นอีกในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ที่ถือว่ากระทบต่อปากท้องของประชาชนอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำทางพรรคได้ให้ ส.ส.ของพรรคได้คุยกันอีกทีเนื่องจากทางพรรคไดเรียกร้องไปยังรัฐบาลหลายครั้งแล้วแต่ยังมีทำอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่ง ส.ส.ของพรรคได้รับการประสานจากชาวสวนยางในทุกพื้นที่เพื่อจะเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาราคายางอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า

นายอภิสิทธิ์ ยังย้ำว่า ต่อจากนี้จุดยืน แนวคิด และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องถูกสื่อสารให้เข้าถึงประชานมายิ่งขึ้น โดยกรรมการสาขาพรรคฯ จะต้องทำหน้าที่อย่างเข้มข้น และในส่วนของการคัดสรรบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งจากนี้ไปผู้สมัครต้องทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ต้องเสียสละเข้าถึงประชาชน

การเข้าถึง และอยู่กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประชาชนเข้าใจและเข้าถึงผู้สมัครของพรรคได้ อย่างที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งซ่อมในเขตดอนเมือง กทม. ที่พรรคต้องใช้เวลามานานกว่า 37 ปี จึงได้เก้าอี้ ส.ส.เขตดอนเมืองมาได้ ซึ่งนั่นก็สื่อให้เห็นถึงความขยัน อดทน

ภายหลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินลงจากเวทีได้มีกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรสวนยางพารา จ.บึงกาฬ ยื่นหนังสือเรียกร้องในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยนายอภิสิทธิ์ ได้รับหนังสือไว้พร้อมจะให้ ส.ส.ของพรรคหาแนวทางให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

ด้าน นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.กาฬสินธุ์ ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กระแสตอบรับในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ดีขึ้น สาขาพรรคทั้ง 5 สาขามีกรรมการสาขาพรรค และสมาชิกทำหน้าที่แทนพรรคอย่างเข้มแข็ง โดยเพาะการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลที่เกิดขึ้นที่สร้างปัญหาให้แก่ประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ที่ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะปรับราคารับจำนำอยู่ที่ 12,000-13,000 บาท ซึ่งไม่ตรงกับการรับปากไว้เมื่อตอนหาเสียง

การลงพื้นที่พบประชาชนพบอย่างต่อเนื่อง จะทำให้รู้ว่าประชาชนเริ่มเปรียบเทียบกับโครงการประกันรายได้ทำให้มีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่ากระแสความนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้