xs
xsm
sm
md
lg

เมียจวก “ไอ้คำ” ไม่ใช่ลูกผู้ชายให้น้องรับผิดแทน-ลั่นฟ้อง “สุริ” น้องไอ้คำทำให้เสียหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจ สภ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ยังคงรักษาความปลอดอย่างเข้มงวด ที่บ้านของ น.ส. ญ ที่ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นเมียของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน วันนี้ ( 24 ก.ค.)
ศรีสะเกษ- เมียจวก “ไอ้คำ” ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้น้องออกมารับผิดแทน ท้าโผล่หัวมาตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์มีลูกชายกับ “สมีคำ” แน่นอน ลั่นให้ทนายฟ้อง “สุริ” น้องชายเณรคำ ออกมาพูดทำให้ได้รับความเสียหายหนัก

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นของนางสาว ญ. (นามสมมติ) ที่ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นเมียของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 11 ขวบนั้น ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) มาคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ส่วนกรณีที่นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุติธรรม ได้นำ นายสุริ สุขผล อายุ 31 ปี น้องชายของนายวิรพล สุขผล ออกมาแถลงข่าวว่า ภาพที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตที่มีรูปพระนอนกับสีกานั้นเป็นภาพของน้องชายนายวิรพล คือ นายสุริ และน้องชายนายวิรพลเป็นพ่อของเด็กที่เกิดกับนางสาว ญ. และพร้อมที่จะตรวจดีเอ็นเอ นั้น

นางสาว ญ.กล่าวว่า การที่นายสุริออกมารับผิดแทนพี่ชายคือนายวิรพล ตนเห็นว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่ออกมารับแทน และตนไม่เคยรู้จักนายสุริ รวมทั้งไม่มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวและไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันเลย การที่นายสุริออกมารับแทนนายวิรพลนั้นคาดว่าอาจเกิดจากการที่นายวิรพลไม่ต้องการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตนและลูกชายของนายวิรพล ตนขอยืนยันว่าผู้ที่ตนมีความสัมพันธ์ด้วยคือ นายวิรพล จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ไม่ใช่มีความสัมพันธ์กับนายสุริ ซึ่งเป็นน้องชายของนายวิรพล และออกมาพูดให้ตนได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

นางสาว ญ.กล่าวต่อว่า ตนคิดว่านายวิรพลไม่ใช่ลูกผู้ชายที่ให้น้องชายออกมารับผิดแทน อยากฝากถึงนายวิรพลว่าให้ออกมาเปิดตัวและยอมรับผิด ซึ่งนายวิรพลทราบดีอยู่แล้วว่าลูกชายของตนเป็นลูกชายของเขา และเป็นไปไม่ได้ที่นายสุริ น้องชายของนายวิรพลจะออกมาตรวจดีเอ็นเอแทน ตนขอยืนยันว่าคนที่มีความสัมพันธ์และมีลูกกับตนไม่ใช่น้องชายของนายวิรพล แต่เป็นตัวนายวิรพลเอง และนายวิรพลควรที่จะออกมาตรวจดีเอ็นเอเพื่อจะได้รู้กันไปว่าลูกของตนเป็นลูกของใครกันแน่ จะให้ดีต้องให้พ่อและแม่ของนายวิรพลมาตรวจดีเอ็นเอด้วย จะได้รู้กันไปว่าลูกของตนมีใครเป็นพ่อ ซึ่งตนมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่าลูกของตนมีนายวิรพลเป็นพ่อ ไม่ใช่น้องชายนายวิรพล และลูกศิษย์ของนายวิรพลจะได้เลิกออกมาโต้เถียงเสียที

การที่นายสุริออกมาพูดว่าตนไปมั่วกับผู้ชายหลายคนนั้นทำให้ตนได้รับความเสียหายมาก เขารู้ได้อย่างไรและมีหลักฐานอะไรที่ไปบอกว่าตนไปมั่วกับผู้ชายหลายคนจนแยกแยะไม่ออกว่ามีลูกกับใคร ตนเป็นฝ่ายเสียหายที่นายสุริออกมาพูดแบบนั้น ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ยอมแน่นอน และได้โทรศัพท์ปรึกษาทนายความแล้วเพื่อให้ดำเนินการฟ้องร้องนายสุริ และสื่อมวลชนที่เผยแพร่ต่อไป

“นายวิรพลไม่เป็นลูกผู้ชายพอที่ให้น้องชายออกมารับแทนเช่นนั้น หากเป็นลูกผู้ชายเขาจะต้องออกมารับในจุดนี้” นางสาว ญ.กล่าว

ทางด้าน นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดป่าขันติธรรมคนเดิมแต่อย่างใด ซึ่งหากไม่ติดต่อเข้ามาทางฝ่ายที่ต้องการสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องดำเนินการขอสร้างวัดใหม่ทั้งหมด ซึ่งตนพร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ลูกศิษย์คนสนิทของนายวิรพลประกาศว่า นายวิรพลจะกลับเข้ามาในประเทศไทยในวันที่ 31 ก.ค.นี้อย่างแน่นอนนั้น หากนายวิรพลกลับเข้ามาในประเทศไทยจริงก็เป็นการดี เพราะจะได้ดำเนินการต่อสู้คดีความตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับกรณีที่ นายสุริ สุขผล อายุ 31 ปี น้องชายของนายวิรพล สุขพล ออกมายอมรับว่าเป็นชายที่นอนกับผู้หญิงในภาพที่มีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และยืนยันว่า เป็นพ่อของลูกชายที่มีหญิงสาวอ้างว่าเป็นภรรยาของนายวิรพลนั้น เรื่องนี้คงต้องดำเนินการตรวจพิสูจน์ด้วยวิธีทางการแพทย์ซึ่งจะทำให้ได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร

นอกจากนี้แล้ว จากการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้สั่งการให้ตนไปตรวจสอบสาขาของวัดป่าขันติธรรมนั้น ตนและคณะได้ไปทำการตรวจสอบแล้ว โดยในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษมีสาขาของวัดป่าขันติธรรมอยู่ที่ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 2 สาขา โดยอยู่ที่บ้านตาเส็ด ต.บักดอง อ.ขุนหาญ และอยู่ที่บ้านซำปิกา ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ ซึ่งทั้งสองแห่งมีพระจำวัดอยู่แห่งละ 3 รูป รวมเป็น 6 รูป ซึ่งได้รายงานผลการตรวจสอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทราบแล้ว

น.ส. ญ. ยังใช้ชีวิตตามปกติ เลี้ยงลูกอยู่ภายในบ้าน

กำลังโหลดความคิดเห็น