xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุลุยตรวจบัส-18 ล้อมรณะ 19 ศพที่สระบุรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สระบุรี - ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย นำวิศวกร พร้อมทีมงานลงพื้นที่ตรวจสภาพรถบัสโดยสาร และรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อหลังเกิดเหตุสยองดับ 19 ศพ ที่แก่งคอย สระบุรี ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตรุมหาทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต

กรณีมีเหตุรถบัสโดยสารสาย “ร้อยเอ็ด-กรุงเทพฯ” ถูกรถบรรทุกพ่วงข้ามเกาะพุ่งชนประสานงาบนถนนมิตรภาพ ระหว่างหลัก กม.ที่ 119-120 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี แล้วเกิดไฟลุกไหม้คลอกผู้โดยสารเสียชีวิต 19 ศพ และบาดเจ็บอีก 21 คน เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ก.ค.56 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ สภ.แก่งคอย พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย ได้กางเต็นท์นำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บที่พบในรถบัสโดยสารแยกใส่ถุงดำ เขียนชื่อระบุคคลแต่ละรายไว้ โดยมีกลุ่มญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหอบหลักฐานมาติดต่อและขอดูสิ่งของเหล่านั้น ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ในบางรายเมื่อพบทรัพย์สินส่วนตัว ภาพถ่ายที่บรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทางที่ไฟไหม้หลงเหลืออยู่ต่างพากันร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

ในขณะเดียวกัน ร.ศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐพงศ์ ผู้จัดการ “ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย” นำวิศวกร พร้อมทีมงานลงพื้นที่เพื่อตรวจสภาพรถบัสโดยสาร และรถบรรทุกพ่วงที่เกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่ได้ลากนำมาเก็บไว้ที่หน้า สภ.แก่งคอย หลังการตรวจ ร.ศ.ดร.กัณวีร์ เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุฯได้ตรวจสภาพรถทั้ง 2 คันอย่างละเอียด ตั้งแต่ถนนบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนและหลังเกิดเหตุเพื่อนำข้อมูลรวบรวมเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์และแก้ไขปรับปรุง ป้องกันอุบัติภัยต่อไป

สำหรับในกรณีนี้ รถบัสที่เกิดเหตุถูกรถพ่วงข้ามเกาะพุ่งเข้าชนอย่างจัง ทำให้แบตเตอรี่ที่อยู่ใต้คอนโซลที่นั่งคนขับถูกแรงกระแทกทำให้เกิดไฟช็อตเป็นประกายไฟลุกไหม้ขึ้น ประกอบกับ อุปกรณ์ในรถ เบาะที่นั่ง คอนโซล ผนังกันความร้อนด้านบนหลังคาล้วนเป็นฉนวนเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี

ส่วนในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากนั้น ตนได้พูดคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้โดยสารที่รอดตายนำมาประกอบกับการตรวจสภาพรถ ทราบว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นคนขับรถบัสเสียชีวิตทั้งคู่ทำให้ประตูไฮดรอลิกสำหรับผู้โดยสารขึ้นลงไม่สามารถเปิดได้

ส่วนประตูกลางตัวรถชั้นล่างอีกประตูหนึ่ง ปกติจะปิดเปิดอยู่ที่คนขับเช่นกัน แต่บังเอิญในครั้งนี้เมื่อเกิดการชนด้วยความแรงทำให้ประตูนั้นเปิดออกได้เอง และยังคงค้างอยู่จึงทำให้ผู้โดยสารหนีเอาชีวิรอดมาได้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งผู้โดยสารที่อยู่ชั้นบนได้เคาะกระจกประตูฉุกเฉินที่อยู่ค่อนไปทางด้านหลังฝั่งขวามือกระโดดออกจากตัวรถมาได้

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตล่าสุดทราบชื่อแล้ว 15 ศพ ประกอบไปด้วย 1.นายทศพร แสงสุภา 2.นายอำนาจ ชัยพอ 3.ด.ช.อภิชาติ ชัยพอ 4.นายสาคร สวัสดิผล 5.น.ส.นวลมณี ปิ่นบัณฑิต 6.นายอมรศักดิ์ อินธนพ (คนขับบัส) 7.นายชาญชัย แนบเสนา (คนขับบัส) 8.น.ส.สัญญรัตน์ เดชผล 9.น.ส.จุฬาลักษณ์ สวรรค์น้อย 10.นายสัมฤทธิ์ วันทอง 11.นางพรณิภา วันทอง 12.นายอนันต์ วงค์อรุณ 13.น.ส.ปาริชาติ แก้วคุณ 14.น.ส.ภรณ์นภา เสโน 15.น.ส.กรรณิการ์ นิจกรรม (ยังไม่ทราบชื่ออีก 4 ศพ)

ส่วนผู้บาดเจ็บที่นอนพักรักษาที่ รพ.สระบุรี เพียง 8 ราย และได้ย้ายไป รพ.อื่นแล้ว 5 ราย คือ 1.ว่าที่ ร.ต.ธนันท์ ปิ่นบัณฑิต ย้ายไปรักษาต่อที่ รพ.บางปะกอก 8 2.พ.ญ.สิริสวัสดิ์ วันทอง ย้ายไป รพ.ศิริราช 3.น.ส.ฉัตรทิพย์ วงค์ป้อม ย้ายไป รพ.บำรุงราษฏ์ 4.ส.ต.อ.อรวรรณ อสิกัน ย้ายไป รพ.ตำรวจ 5.นายกิตติ แก้วคำลือ ย้ายไป รพ.เปาโล และยังคงเหลือผู้ป่วยที่ยังพักรักษาที่ รพ.สระบุรี อีก 2 ราย คือ น.ส.ปรียารินทร์ ประดิษฐ์สุขอารมณ์ และ น.ส.สมเพียร เสโน (รู้สึกตัวดี) และที่ รพ.แก่งคอย ยังคงเหลือ นายสะอาด เพ็ญปรัง คนขับรถพ่วงคันก่อเหตุที่ถูกตำรวจอายัดตัวไว้ดำเนินคดีเพียงคนเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น