ศูนย์ข่าวศรีราชา - แก๊งต้มตุ๋นออกอุบายหลอกเงินป้าขายลอตเตอรี่ในเขตพื้นที่โรงโป๊ะ ให้ช่วยเหลือไถ่ถอนที่ดิน ขายได้จะแบ่งเงินให้คนละแสน หลงเชื่อกู้เงินหนึ่งล้านจากเพื่อนมาเพื่อไถ่ถอนที่ดิน ก่อนถูกเชิดเงินหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (15 ก.ค.) ร.ต.ท.พิเชษฐ์ มีภูเพ็ญ ร้อยเวร สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งจากนางประนม แซ่ตั้ง อายุ 66 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ และน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และนางรวิ พลเภา อายุ 63 ปี ทั้งสองคนเป็นญาติกัน ว่า ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกสูญเงินเกือบล้านบาท ก่อนมาปล่อยทิ้งไว้ในเขตพื้นที่แหลมฉบัง และหลบหนีไปอย่างลอยนวล
นางประนม กล่าวว่า มีอาชีพขายลอตเตอรี่ และขายน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ อยู่ที่หมู่ 1 โรงโป๊ะ อ.บางละมุง ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ มีนางสุนิสา และนายสมชาย มาซื้อลอตเตอรี่ และได้สั่งซื้อน้ำสมุนไพรไปรับประทาน ก่อนจะโทรศัพท์มาสั่งอีกครั้ง และบอกว่าจะมาเอาในวันที่ 15 กรกฎาคม พอถึงเวลา นางสุนิสา และนายสมชาย ได้มารับน้ำสมุนไพรตามที่ได้นัดไว้ ก่อนจะสอบถามเส้นทางไปวัดสังกะเปียว พร้อมให้ตนพาไปเนื่องจากไปไม่ถูก ตนจึงชวนนางรวิ ที่อยู่ด้วยกันไปเป็นเพื่อน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
ระหว่างทางได้ยินทั้งสองคุยกันเรื่องจะมาดูที่ดินของ ยายสี ในละแวกนั้น พอมาถึงหน้าวัดสังกะเปียว ได้พบกับผู้ชายรูปร่างอ้วน พร้อมด้วยผู้หญิงมีอายุอีก 1 คน ทั้งสองจึงจอดรถสอบถามคนทั้งสองว่ารู้จักบ้านนางสี ไหม ก่อนทั้งสองจะตอบว่าตนเป็นลูกของนางสี ส่วนผู้หญิงที่นั่งอยู่คือนางสี ซึ่งก็เหมือนเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ
แล้วทั้งสองก็คุยเรื่องที่ดิน ก่อนชายรูปร่างอ้วนจะหันมาขอความช่วยเหลือจากตน ด้วยการไปพูดกับนายทุนให้ช่วยซื้อที่ดินให้หน่อย เนื่องจากเป็นหนี้มากอยากขายที่ให้ได้เร็วๆ และจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ป้าทั้งสองคน คนละแสนบาท ตนจึงรับปากว่าจะช่วยเหลือ ทั้งหมดจึงพามาพบกับนายทุนที่บริเวณถนนสุขุมวิท โดยนายทุนขับรถมาอีกหนึ่งคัน ก่อนจะขึ้นมาคุยกันในรถของนายสมชาย และนางสุนิสา
ซึ่งนายทุนก็ทำทีว่าก็อยากได้ที่ดินแปลงนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอวางเงินมัดจำไว้ 4 แสน โดยส่งเงิน 4 แสนให้ไว้ที่นายสมชาย แล้วก็ลงจากรถไป หลังจากนั้นชายรูปร่างอ้วนบอกว่าที่ดินผืนนี้มีทั้งหมด 17 ไร่ ราคาไร่ละ 1 ล้านบาท แต่จำนองอยู่ 3 ล้านกว่า ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่แหลมฉบัง ถ้าจะขายจะต้องไปไถ่ถอนที่ดินออกมาก่อน
นายสมชาย กล่าวว่า ตอนนี้มีเงินอยู่ 4 แสนบาท แล้วหันมาถามตนว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ให้ช่วยออกเงินส่วนหนึ่ง แล้วที่เหลือนายสมชาย จะออกเองทั้งหมด ในตอนนั้นตนบอกไม่มีเงิน แต่จะหาเงินให้โดยต้องไปขอยืมเงินจากเพื่อนก่อน
ทั้งหมดจึงพากลับไปที่บ้านของตน โดยทิ้งให้ชายรูปร่างอ้วนนั่งรออยู่ที่บ้านตน ส่วนตนออกไปกู้เงินจากเพื่อนมา 1 ล้านบาท แต่โดนหักไป 1 แสนบาท เป็นค่าดอกเบี้ยก่อน จึงเหลือ 9 แสนบาท โดยเพื่อนได้ไปเบิกเงินสดจากธนาคารมาให้
หลังจากได้เงินแล้ว นายสมชาย นางสุนิสา และชายรูปร่างอ้วน ก็พามาที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตแหลมฉบัง เพื่อที่จะไถ่ถอนที่ดิน พอมาถึงร้านทองก็ได้จอดรถห่างจากร้านทองประมาณ 50 เมตร ก่อนชายรูปร่างอ้วนจะเอาเงินทั้งหมดลงไป เวลาผ่านไปประมาณเกือบ 20 นาที ก็โทรศัพท์มาหานางสุนิสา ให้ตนลงไปเซ็นชื่อที่ร้านทองตนก็ลงไปคนเดียว แต่หาไม่เจอ
เวลาเดียวกัน ตอนตนลงจากรถมาสักครู่ ชายรูปร่างอ้วนก็โทรศัพท์หานางสุนิสา อีก ออกอุบายว่าตนไม่มีบัตรประชาชน ให้นางรวิ ลงไปเซ็นชื่อให้แทน พอตนทั้งสองคนลงไป ก็เดินตามหาไม่พบจึงเดินกลับมาที่รถพบว่าทั้งหมดได้หายไปแล้ว จึงคิดว่าต้องโดนหลอกแน่นอนจึงรีบมาแจ้งตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ช่วยติดตามคนร้ายให้ด้วย