ร้อยเอ็ด-เจ้าคณะภาค 10 ธรรมยุต เผยพร้อมหลีกทางให้กรรมการท่านอื่นสอบสวนเอาผิดเณรคำ ปัดข้อครหาเข้าข้างเณรคำ ขณะที่รถคัมรี่ที่เณรคำถวายให้พร้อมคืนให้ แย้มต้องให้โอกาสเณรคำกลับมา ไม่ใช่บังคับจับสึกข้างเดียว ชี้ต้องฟังเหตุผลเณรคำด้วย
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง ในเขตอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งมีพระธรรมฐิติญาณ เป็นเจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย และเป็นเจ้าคณะภาค 10 (ธ) ซึ่งได้ติดตามคามคืบหน้าคดีเณรคำ จากหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ได้กล่าวถึงกรณีที่อนุญาตให้พระสงฆ์ในระดับเจ้าคณะจังหวัด 2 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดเณรคำ โดยยังไม่มีหนังสือแจ้งมายังตนเองที่เป็นผู้ดูแลระดับภาค
พระธรรมฐิติญาณ กล่าวต่อว่า ผลการสอบสวนที่ยังไม่แจ้งมาอาจจะมาจาก 2 ประเด็น คือ ผลการสอบสวนอาจจะจบในระดับกรรมการระดับจังหวัด แล้วแจ้งให้ตนทราบเท่านั้นจบ และอีกประเด็นคือ หาข้อยุติไม่ได้ก็ต้องรายงานมาให้ตนเองทราบ แล้วให้ตนเองเป็นประธานในฐานะเป็นผู้ใหญ่สูงสุดสอบสวนต่อเพื่อหาข้อยุติต่อไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแจ้งมา
กรณีที่ตนอาจจะไม่ได้เป็นประธานกรรมการสอบสวนเอาผิดเณรคำในระดับภาค เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แล้วแต่ความเห็นชอบของเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุทธ (ธ) ที่มีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นเจ้าคณะใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งมีสมเด็จพระวันรัต รักษาการแทน จะพิจารณาจากการที่มีข่าวกล่าวหาว่าตนเองเข้าข้างเณรคำ แล้วจะทำให้ผลการสอบสวนขาดความน่าเชื่อถือ
ทั้งมีข่าวว่าจะให้รองเจ้าคณะภาค 10 คือ พระธรรมธัชมุนี ซึ่งอยู่ที่วัดปทุมคงคา กรุงเทพฯ ที่เป็นรองเจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานการสอบสวน ตนเองก็ยอมรับได้ จะได้สบายใจขึ้น เพราะหากผลออกมาไม่ว่าจะอย่างไร จะได้สบายใจไม่มีคำครหาตามมา
ส่วนจะเรียกรถโตโยต้า คัมรี่ ทะเบียน กง 5578 ร้อยเอ็ด ที่เณรคำมอบให้เมื่อปี 2554 คืนนั้น ตนยินดีจะคืนให้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และพร้อมให้มีการสอบสวน และให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะรถยนต์ได้มาโดยถูกต้อง และเป็นการถวายมาก็รับไว้ตามธรรมเนียมที่ผู้น้อยถวายให้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางวัดมีรถใช้อยู่แล้ว
กรณีเรียกร้องให้เณรคำ กลับมารับความผิด และสอบสวนตามข้อกล่าวหานั้น พระธรรมฐิติญาณ กล่าวว่า หากจะให้เณรคำกลับมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนเห็นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมหากจะจับสึกแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ฟังข้อเท็จจริง ที่ถูกกล่าวหาแบบฟังความข้างเดียว โดยไม่ฟังพื้นฐานของความเป็นจริง จ้องหาเรื่องใส่ความอย่างเดียว
