เด็กกตัญญูดูแลปู่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จนถูกน้ำร้อนลวกสาหัส

พระนครศรีอยุธยา - เด็กชายวัย 11 ขวบ ยอดกตัญญูชาวพระนครศรีอยุธยา ดูแลปู่วัย 69 ปี ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จนถูกน้ำร้อนลวกบาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับตัวเด็กถูกน้ำร้อนลวกจากโรงพยาบาลบางบาลมาทำการรักษา โดยทราบว่าเป็นเด็กกตัญญูช่วยเหลือดูแลปู่ที่มีอาการเจ็บป่วย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล พบ ด.ช.สุรัตน์ หรือม่อน ทับทิม อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดนกกระจาบ พบว่า มีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกตั้งแต่โคนขาซ้ายจนถึงข้อเท้า และที่แขนซ้าย และแขนขวาอาการสาหัส

ด.ช.สุรัตน์ เปิดเผยว่า ได้ถูกน้ำร้อนลวกมาแล้วเกือบ 3 อาทิตย์ ยังมีความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนตามแขนตามขาอยู่ตลอดเวลา ในวันเกิดเหตุได้ต้มน้ำร้อนเพื่อไปผสมยาให้แก่ปู่ ระหว่างที่ยกหม้อน้ำร้อนที่กำลังเดือด ปู่ได้ร้องเรียกให้ไปหาเร็วๆ เนื่องจากไอเจ็บคอ จึงรีบเดินจังหวะนั้นไปเหยียบไม้กระดานที่ผุอยู่ ทำให้เสียหลักหม้อน้ำร้อนหลุดจากมือราดใส่แขน และขาช่วงที่ล้มลง

จากนั้นได้วิ่งออกมาจากบ้านด้วยความเจ็บปวดไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลบางบาล วันแรกๆ ที่นอนโรงพยาบาลรู้สึกปวดจนพลิกตัวไม่ได้ แต่มาระยะนี้เริ่มดีขึ้น แต่ยังรู้สึกตึงๆ ที่บาดแผลตามร่างกายพอจะขยับตัวได้บ้างอยากหายเร็วๆ จะกลับไปดูแลปู่ที่ป่วย ปกติจะต้องทำหน้าที่ดูแลปู่หลังเลิกเรียน และวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงนี้คิดถึงโรงเรียนมากอยากกลับไปเรียนหนังสือกลัวไม่ทันเพื่อน

นางนงเยาว์ ทับทิม อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.สุรัตน์ เปิดเผยว่า สงสารหลานมากเขาเป็นเด็กที่คอยช่วยดูแลอาการป่วยของ นายวัน ทับทิม อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นสามีที่ป่วยเป็นมะเร็งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ได้หลานชายคอยช่วยเหลือ ตนเองดูแลในวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะตนต้องออกไปรับจ้างทำงาน เพราะปกติมีรายได้จากเงินช่วยเหลือคนชรา ซึ่งไม่เพียงพอ ลูกชายคนโต และพ่อของหลานได้ส่งเงินมาช่วยเหลือบ้าง เห็นอาการของหลานแล้วคงจะต้องใช้เวลารักษาอีกนาน เป็นห่วงเขากลัวจะเรียนไม่ทัน เพราะมาหยุดเรียนมาหลายอาทิตย์ หลานคนนี้ช่วยดูแลปู่แล้วยังช่วยทำงานบ้านในช่วงตอนเย็น ยังไม่รู้ว่าการรักษาจะต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหนเพราะช่วงนี้ครอบครัวไม่ค่อยจะมีเงินเพียงพอในการรักษา

จากการสอบถามนายแพทย์วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเด็กถูกย้ายมาจากโรงพยาบาลบางบาล ขณะนี้บาดแผลตามร่างกายที่แขนซ้าย และขาขวาเริ่มดีขึ้น แต่จะต้องให้ยาทำการรักษาอีกสักระยะหนึ่งคงจะต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อแผลแห้งจะทำการปะหนังในส่วนที่ผิวหนังที่เสียหายจากการถูกน้ำร้อนลวก ด้วยการนำชิ้นเนื้อในส่วนของต้นขามาปะ อาจจะต้องทำหลายครั้งต้องการทำการรักษาอีกเป็นเดือนทางโรงพยาบาลมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรงจะทำการรักษาช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพราะเด็กคนนี้เท่าที่พูดคุยเป็นเด็กกตัญญูดู และดูแลปู่ที่เจ็บป่วย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 7 ม.4 ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านของ ด.ช.สุรัตน์ พบนายวัน ผู้เป็นปู่นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงนอนสภาพร่างกายซูบผอม โดยมีนางอุไร นันทกูล อายุ 68 ปี น้องสาว มาคอยดูแลแทน เพราะย่าต้องไปเฝ้า ด.ช.สุรัตน์ ที่โรงพยาบาล เมื่อสอบถามถึงหลานชาย นายวัน ได้แต่พยักหน้าว่าเป็นห่วงหลานมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากร่างกายตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะช่วยเหลือ ด.ช.สุรัตน์ สามารถโอนเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย สาขาบางบาล หมายเลข 483-2-25385-2 นางนงเยาว์ ทับทิม เพื่อนายวัน ทับทิม ได้