xs
xsm
sm
md
lg

ปู่จูงหลาน 6 ขวบร้องทุกข์ ถูกกระบะชนแต่ ตร.ชี้ผิด เหตุไม่มีใบขับขี่-ปั่นจักรยานตัดหน้า ทั้งที่คู่กรณียอมรับผิดทุกอย่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - อีกแล้ว! เหยื่อถนนไม่ปลอดภัย ปู่หิ้วหลานนักปั่นวัย 6 ขวบ บุกร้องทุกข์ผู้การฯ อ้างถูกปิกอัพชนแต่ตำรวจท้องที่ไม่ลงสอบพยาน แล้วยังชี้ว่าหลานผิดเพราะไม่มีใบขับขี่ เผยคนชนยอมรับผิดทุกอย่างแล้ว วอนขอความเป็นธรรม เตรียมเรียกเจรจา ตกลงไม่ได้ส่งฟ้องศาลพิจารณาตามรูปคดี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอุดร เสือภี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 388 หมู่ 17 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และ ด.ช.อดิศร เสือภี อายุ 6 ปี หลานชาย นายประทีป เทพพนม ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กก.ตร.) ภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ขอพบ พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่อยู่ จึงได้พบ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม รอง ผบก.แทน

นายอุดร ร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ขณะที่หลานชายกำลังปั่นรถจักรยานอยู่บนถนนภายในหมู่บ้านท่าวัว เส้นทางแยกลงจากถนนสาย รพช. เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าวัว-บ้านหินแร่ ได้มีรถกระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขก 1563 ชลบุรี มีนายอนุรักษ์ ศรเพชร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 6 ต.ท่ากระดาน เป็นคนขับ พุ่งชนหลานชายจนรถจักรยานกระเด็นไปไกลจากจุดเกิดกว่า 10 เมตร หลานชายกระดูกชายโครงหัก กระดูกไหปลาร้าหัก และมีบาดแผลฉกรรจ์ตามลำตัว

ซึ่งขณะเกิดเหตุฝ่ายของผู้ขับรถชนยอมรับผิดทุกอย่าง และบอกว่าจะให้ทางประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบให้ เพราะรถมีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมกับนำหลานชายส่งไปยังโรงพยาบาล ซึ่งทางฝ่ายของตนพร้อมด้วยญาติก็วางใจว่าไม่น่าจะเกิดปัญหา เพราะรับผิด และรถมีประกันภัย แต่เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครมารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ตนต้องไปหากู้หยิบยืมเงินมารักษาอาการบาดเจ็บของหลานชายกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งแพทย์ได้ให้นอนพัก 4 วันก็ให้กลับบ้าน เพราะเห็นว่าไม่มีเงินสดจ่ายเพิ่มเติมอีกหากให้อยู่ต่อไป

หลังจากนั้น ได้ไปติดตามคดีต่อ ร.ต.อ.เสรี ประเสริฐลาภ พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต เจ้าของคดี กลับพบว่า ร้อยเวรชี้ว่าหลานชายเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยจึงไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยตำรวจอ้างว่าหลานชายไม่มีใบขับขี่ และขับรถตัดหน้า ทั้งที่วันเกิดเหตุ ตำรวจไม่ได้ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และก็ไม่เคยไปสอบถาม หรือเสาะหาพยานแวดล้อมมาสอบสวน ทั้งที่มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และร้านค้าใกล้เคียง อีกทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุป็นถนนประจำหมู่บ้าน อยู่ภายในซอยที่ผู้ขับขี่จากภายนอกที่เข้ามา จะต้องใช้ความระมัดระวังสูงมากกว่าถนนใหญ่

พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำหนังสือสั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบความถูกต้อง และทำสำนวนคดีใหม่ โดยจะให้ ผกก.กำกับดูแลคดีอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาเจรจากันอีกครั้ง หรือหากไม่สามารถเจรจากันได้ก็จะส่งฟ้องให้ศาลตัดสินชี้ขาดตามรูปคดี

ขณะที่ นายประทีป กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เคยโทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม หรือน่ารับฟังกลับมาเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น