ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิการบดี ม.สันติภาพโลกแถลงเตรียมพบดีเอสไอ 10 ก.ค. พร้อมคุยทุกเรื่อง มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องให้เกียรติกันบ้างในฐานะเป็นผู้ใหญ่-อาจารย์ แย้มเตรียม “ลี้ภัยทางการศึกษา” หลังจบเรื่อง เหตุถูกปิดกั้นความคิด แค่ฝันถึงมหาวิทยาลัยดีๆ แบบใหม่ก็โดนด่าแล้ว
วันนี้ (8 ก.ค.) ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์ บันเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการมหาวิทยาลัย เลขที่ 19 ถนนเทพฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับกรณีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก และการมอบปริญญาบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้เป็นคดีพิเศษว่า พร้อมที่จะหารือกับดีเอสไอ หรือสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) และให้ความร่วมมือในการค้นหาข้อเท็จจริงเต็มที่ แต่ควรจะต้องให้เกียรติตน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่และเคยเป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษามาถึง 29 ปีด้วย ไม่ใช่ตั้งธงว่ามีความผิดแน่นอนเหมือนที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ติดต่อมาเพื่อขอนัดพูดคุยกัน ซึ่งได้แจ้งไปว่าสะดวกที่จะไปพบวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ และจะขอเปลี่ยนสถานที่จากดีเอสไอมาเป็นศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ส่วนที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนว่ามีการออกหมายจับตนแล้ว ความเป็นจริงก่อนหน้านี้ดีเอสไอไม่เคยติดต่อมาหาเลย
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์กล่าวว่า การดำเนินการของมหาวิทยาลัยเป็นไปโดยเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการเป็นผู้นำวิธีการเปลี่ยนแปลงการศึกษาเพื่อสันติภาพโลกซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น ทั้งดีเอสไอ และ สกอ.ควรจะนัดหมายพูดคุยกับตน โดยอาจจะมาพบที่บ้านก็ได้ หากพบว่ามีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสมก็ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขจึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
การกล่าวหาว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลกมีพฤติกรรมหลอกลวง ต้องถามว่ามหาวิทยาลัยไหน เพราะองค์กรที่ดำเนินการในนามมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกในประเทศไทยมีถึง 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก หรือ WPU ที่ตนดูแล มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 หรือ WPU2 และ World Peace Academy Cyber University Pakistan ซึ่งในส่วนที่ตนรับผิดชอบยืนยันว่าไม่มีการเรียกเก็บเงินจำนวนมากเพื่อให้ปริญญาอย่างแน่นอน
รวมทั้งได้แจ้งต่อผู้ที่รับปริญญาไปแล้วว่าปริญญาดังกล่าวเป็นการให้เพื่อเป็นเกียรติ และเชิดชูการทำคุณงามความดี ไม่สามารถนำไปอ้างอิงเป็นวุฒิทางการศึกษาได้ โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับปริญญาทั้งหมดประมาณ 300 คนยืนยันว่าผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยอย่างเข้มงวด มีการบันทึกรายชื่อไว้ทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ ตนยินดีให้ความร่วมมือในการติดตามหาคนที่คิดไม่ซื่อกับแนวคิดทางการศึกษาที่ตนวางไว้อย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันหากจะมีการกล่าวหาใครก็ควรจะต้องบอกให้ชัดเจนด้วย ไม่ใช่กล่าวอ้างขึ้นมาเฉยๆ
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์หลายประการ รวมทั้งมีกิจกรรมตามแผนงานในอนาคต เช่น นำธงสันติภาพที่มีคนไทยร่วมกันลงชื่อไปปักบนยอดเขาหิมาลัย แผนการนำครุยไปมอบแก่เด็กที่ จ.นราธิวาส เพื่อรณรงค์ให้เกิดสันติภาพแทนการจับอาวุธขึ้นต่อสู้กัน รวมทั้งการมอบปริญญาแก่ชาวเขาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งทำให้ชาวเขายุติความขัดแย้งระหว่างกัน แต่เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครทราบ และไม่เคยถูกเผยแพร่
“บรรยากาศทางวิชาการที่มีการปิดกั้นเช่นนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่อาจจะคิดสร้างสรรค์งานวิชาการใดๆ ได้ จึงจะขอประกาศลี้ภัยทางการศึกษาภายหลังเสร็จสิ้นการให้ความร่วมมือกับทางดีเอสไอแล้ว”
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์กล่าวว่า อยากหาโอกาสเข้าพบนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อชี้แจงและนำเสนอแนวทางการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัย รวมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ สกอ.จึงไม่มีสิทธิกล่าวอ้างว่าทำผิดกฎ แต่ควรจะปล่อยให้ตนดำเนินการไปก่อน เมื่อพบว่ามีข้อบกพร่องจึงค่อยวิพากษ์วิจารณ์ ขอยืนยันว่าตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ และจะไม่หลบหนีในระหว่างที่ดีเอสไอตรวจสอบเด็ดขาด แต่หลังจากเรื่องดังกล่าวจบลงคงจะขอลี้ภัยทางการศึกษา เนื่องจากน้อยใจ และไม่สนุกกับการทำงานในภาวะแวดล้อมที่จำกัดความคิดเช่นนี้
อนึ่ง ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์ระบุถึงผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งว่าเคยเป็นผู้ที่ได้รับปริญญาจากทางมหาวิทยาลัยแต่ได้ถูกยกเลิก เนื่องจากตรวจสอบพบภายหลังว่าอ้างตัวเป็นกรรมการพิจารณาอนุมัติปริญญา พร้อมทั้งเรียกเก็บเงินรายละ 3,000 บาท ขณะที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวซึ่งเดินทางมาร่วมการแถลงข่าวไม่ได้ชี้แจงใดๆ ต่อกลุ่มสื่อมวลชน แต่ได้ชี้แจงต่อศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์ว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะติดตามหาผู้ที่ให้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อฟ้องฐานหมิ่นประมาทต่อไป