xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง กก.สอบพระธรรมวินัยเชือด “เณรคำ” อีกชุด-แนะคณะสงฆ์ศรีสะเกษเข้าควบคุมวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุติ
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ออกมาเปิดเผยผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ พระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และคนในเครือข่าย พบมีกว่า 16 บัญชี มีเงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท ยิ่งส่งผลให้บรรยากาศที่วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เงียบเหงามากขึ้นกว่าเดิม ไม่พบมีประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วประเทศเข้ามาทำบุญในวัดเช่นที่ผ่านมา มีเพียงคนงานของวัดจำนวน 2-3 คนพากันดูแลความสะอาดภายในวัดเท่านั้น

ขณะที่คนงานส่วนหนึ่งพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนมากยังคงพากันเชื่อว่าหลวงปู่เณรคำไม่น่าที่จะมีพฤติกรรมตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด

ขณะนี้ พระครูวัชรสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ ในฐานะเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) ที่ 13/2556 เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการสอบสวนว่า ขณะนี้หลวงปู่เณรคำได้ส่งลูกศิษย์มาเป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารเกี่ยวกับสังกัดใบสุทธิของหลวงปู่เณรคำ และยื่นหนังสือเพื่อขอเลื่อนการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสงฆ์ แต่ไม่ได้ระบุความชัดเจนว่าหลวงปู่เณรคำจะเดินทางกลับมาเมื่อใด

ทั้งนี้ หลังจากที่อาตมาได้หารือร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้ข้อสรุปและแนวทางการดำเนินการว่าจะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนในเรื่องของพระธรรมวินัยเท่าที่จะสามารถสอบสวนได้ตามภาพหรือเอกสารหลักฐาน รวมไปถึงพยานบุคคลต่างๆ ที่มีอยู่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าหลวงปู่เณรคำกระทำความผิดพระธรรมวินัยข้อใดบ้าง พร้อมทั้งดำเนินการสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ควบคู่กันไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หลวงปู่เณรคำได้แสดงพระธรรมเทศนาในลักษณะของการอวดอ้างตนว่าเคยเข้าพบพระอินทร์ หรือแสดงว่าตนมีอิทธิฤทธิ์ ในส่วนนี้เป็นการอวดอุตริหรือไม่นั้น พระครูวัชรสิทธิคุณกล่าวว่า ในส่วนนี้ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนข้อเท็จจริง ขององค์ประกอบของพระธรรมวินัยว่ามีเจตนา หลักฐาน สาระที่แสดงออกไปเพื่อจุดประสงค์ใด เพราะพระธรรมวินัยจะเป็นสิ่งที่ตัดสินในเรื่องนี้

ในขณะนี้คณะกรรมการยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการสอบสวน จึงยังไม่สามารถชี้มูลความผิดของหลวงปู่เณรคำได้แต่อย่างใด และยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าสิ่งที่หลวงปู่เณรคำได้กระทำลงไปนั้นมีความผิดหรือไม่ เพราะการทำงานเราไม่สามารถเอาความรู้สึกนึกคิดมาตัดสินได้ ซึ่งจะได้มีการรวบรวมเอกสารข้อมูลต่างๆ เสนอไปยังพระครูวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป

ทางด้าน นายวุฒิพงษ์ คำเพราะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1482/7 ถ.วิจิตรนคร ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนชาวศรีสะเกษเห็นว่า การที่วัดป่าขันติธรรมหรือสำนักสงฆ์ขันติธรรมตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอยู่ในเขตปกครองของคณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต โดยมีการจัดตั้งบริษัทเข้าไปบริหารงานภายในวัด และขณะนี้กำลังมีเรื่องวุ่นวายและวัดนี้ก็ยังไม่ได้สร้างอย่างถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย แต่กลับมีเรื่องฉาวโฉ่จากการประพฤติไม่เหมาะสมของหลวงปู่เณรคำ พระสงฆ์วัดป่าขันติธรรมไม่จบสิ้นนั้น ตนจึงเห็นว่าเพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของ จ.ศรีสะเกษไม่ให้มัวหมอง และเพื่อเป็นการควบคุมสำนักสงฆ์ของ จ.ศรีสะเกษที่กำลังมีปัญหา

จึงขอกราบเรียนเสนอแนะให้คณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ได้ใช้อำนาจของคณะสงฆ์ศรีสะเกษจัดส่งคณะพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเข้าไปบริหารงานควบคุมดูแลวัดป่าขันติธรรมแทนหลวงปู่เณรคำและบริษัทที่กำลังบริหารงานวัดป่าขันติธรรมอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากหากปล่อยให้เนิ่นนานออกไปยิ่งจะทำให้ชื่อเสียงของ จ.ศรีสะเกษ เสียหายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อยๆ และขณะนี้มีข่าวว่าวัดป่าขันติธรรมกำลังจะจัดงานหาเงินอีกหลายงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่โปร่งใสในด้านเงินบริจาคขึ้นมาอีก
นายวุฒิพงษ์   คำเพราะ อายุ 43 ปี ชาวศรีสะเกษ
กำลังโหลดความคิดเห็น