พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ลุยระดมกวาดล้างอาชญากรรม 5 วัน ช่วงปลายเดือนจับปืน 8 กระบอก และรถจักรยานยนต์ 5 คัน รวมทั้งยาเสพติด และของกลางอย่างอื่นอีกเพียบ
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าสถานีตำรวจ 26 สถานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงระหว่างวันที่ 25-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมยาบ้าได้ 273 เม็ด ยาไอซ์ 4.26 กรัม ใบกระท่อม 16 ใบ อาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวน 8 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 163 นัด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้างเก่า การพนัน บุคคลต่างด้าว เมาแล้วขับ ปล่อยเงินกู้เกินอัตรา และคดีอาชญากรรมต่างๆ ได้ผู้ต้องหา 254 คน ยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการ รถจักรยานยนต์ 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง เงินสด จำนวน 27,570 บาท คิดเป็นมูลค่า 196,570 บาท
พล.ต.ต.กรเอก กล่าวว่า การทำการกวาดล้างอาชญากรรมเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 และของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนจะเป็นการป้องกันสถาบันการเงิน เพราะในระยะนี้มักจะมีการก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์สถาบันการเงิน การระดมกวาดล้างจึงเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนด้วย
“จะเห็นว่าเพียงระยะเวลา 5 วันเรายังสามารถจับกุมอาวุธปืนได้ถึง 8 กระบอก”
พล.ต.ต.กรเอก กล่าวต่อว่า “ขณะนี้ได้รับทราบจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ทางจังหวัดได้มีการจัดสรรงบประมาณ 10 ล้านบาท ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดเสี่ยงทางเข้าออกเกาะเมือง และถนนสายหลักเพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรม และควบคุมการจราจร ทั้งนี้ เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองท่องเที่ยว จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดูชีวิตความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และประชาชน”
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เตรียมจัดทำโครงการสมาทร์ซิตี้ งบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อเสนอต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองพิเศษ ที่มีทั้งนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง และเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นต่อไป



