กาญจนบุรี-รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม รับตกใจเห็นภาพอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะถ่ายภาพคู่หญิงสาวโผล่ในเฟซบุ๊ก วอนลูกศิษย์แยกสถานะบุคคล ให้เห็นแก่ความดีที่อดีตเจ้าอาวาสเคยสั่งสอน ด้านผู้มาปฏิบัติธรรมอึ้ง ไม่คาดคิดมาก่อน รู้แค่สึกเพราะปัญหาสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นางสุทธิรัตน์ มุตตามระ หรือ “แอน” (Suttirat Muttamara) นักธุรกิจหญิงในวงสังคมชื่อดังของเมืองไทย ได้นำภาพถ่ายคู่กับอดีตพระมิตซูโอะ ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก รวม 4 ภาพ ด้วยลักษณะการแต่งกายในชุดนักท่องเที่ยว และสวมหมวก มีทั้งภาพกอดกัน นั่งซบกัน และถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนิทสนมใกล้ชิด บนเสื้อของพระมิตซูโอะ สกรีนชื่อประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนใต้ภาพบางภาพมีตัวอักษรกราฟิกเขียนว่า ไปเที่ยวที่ภูเขาตาอาล ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยภาพดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพง ที่ 117 เพื่อกราบนมัสการพระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาส และรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว
สำหรับบรรยากาศภายในวัดตั้งแต่เช้า 06.00 น. มีพระสงฆ์ชาวญี่ปุ่น 3 รูป และพระสงฆ์ไทย 17 รูป ได้ทางออกไปบิณฑบาตตามปกติ ส่วนภายในมีบรรดาศิษยานุศิษย์จากกรมสรรพกรภาค 6 นครปฐม จำนวน 80 คน ทั้งหมดมาปฏิบัติธรรมตามโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “แสงธรรมนำชีวิต คุณธรรมนำความรู้ (ธรรมะปฏิบัติประจำปี 2556)” ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 28 มิ.ย. รวมระยะเวลา 5 วัน ก่อนเดินทางกลับทุกคนต่างช่วยกันกวาดถนน พร้อมทั้งถูพื้นภายในศาลาต้อนรับ พร้อมทั้งช่วยกันล้างภาชนะต่างๆ จนแล้วเสร็จ
พระสงฆ์ที่กลับจากไปบิณฑบาต และได้ฉันอาหารเช้าในเวลาประมาณ 08.00 น.จากนั้นได้เทศน์ให้พรแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมทั้งหมด จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. จึงแล้วเสร็จ โดยมีผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหมดนั่งรับพร ก่อนเดินทางกลับ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามกลุ่มผู้ที่มาปฏิบัติธรรมเกี่ยวกับกรณีมีผู้นำภาพอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ไปลงในเฟซบุ๊ก โดยมีผู้หญิงหน้าตาดียืนถ่ายภาพลักษณะโอบกอดกันอย่างสนิทสนม ซึ่งทุกคนต่างตอบว่าไม่เคยรู้มาก่อน รู้เพียงว่าอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ได้สึกจากการเป็นพระ แล้วกลับไปประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดเพื่อสอนธรรมมะอย่างฆราวาส และทราบเพียงว่าท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานเท่านั้น
หลังจากทุกคนได้เห็นภาพดังกล่าวจากสื่อมวลชน ต่างรู้สึกตกใจจนขนลุก และได้เรียกกลุ่มเพื่อนที่ไปปฏิบัติธรรมด้วยกันมาดูภาพ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา แต่สุดท้ายทุกคนต่างก็เข้าใจในตัวของอดีตเจ้าอาวาสกันเป็นอย่างดี และกล่าวว่า ในเมื่อท่านสึกไปแล้วหากท่านจะไปอยู่กินฉันสามีภรรยากับผู้หญิงคนที่อยู่ในภาพก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร เพราะท่านได้สึกไปแล้ว ส่วนแนวทางการปฏิบัติธรรมภายในวัดก็คงไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะทางวัดเองก็ได้มีการบริหารจัดการที่ดีอยู่แล้วเช่นกัน
จากนั้น เวลา 09.30 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่บริเวณลานบุญพุทธชยันตี ภายในวัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพง ที่ 117 หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาส ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ากราบนมัสการ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า อาตมาก็เพิ่งรู้ข่าวเช่นกันซึ่งรู้สึกตกใจที่มีภาพอย่างนี้ออกมา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาตมาทราบก็เคยให้ข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ยอมรับไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย อีกเหตุผลที่อาตมาไม่ทราบเพราะว่าอดีตเจ้าอาวาสได้สึกแล้วกลับไปประเทศอย่างกะทันหัน แต่ในเมื่อข่าวออกมาในลักษณะนี้ ธรรมดาหากเป็นพระเกิดไปมีความรักอะไรกับใครขึ้นมาก็ต้องปกปิดความลับไว้ก่อน ไม่มีหรอกที่พระจะไปบอกว่าอาตมารักโยมคนโน้นคนนี้ เหมือนคนที่นอกใจภรรยาก็คงไม่ต้องการให้ภรรยารู้เรื่อง นี่คือเหตุผลที่ทำให้ทุกคนไม่ทราบเรื่องตั้งแต่ตอนที่ท่านสึก ว่า สาเหตุที่สึกจากการเป็นพระนั้นเป็นเพราะเหตุใด
ปัจจุบัน อาตมา และประชาชนทั่วไปคงทราบแล้วว่า เหตุผลที่อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ ลาสิกขาเป็นเพราะเหตุผลอันใด ภาพได้แสดงให้เห็นอยู่แล้ว แต่การที่ท่านตัดสินใจสึกจากความเป็นพระด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ท่านทำถูกต้องแล้ว ส่วนวัดใดที่ท่านไปสึกอาตมาก็ไม่ทราบจริงๆ เพราะท่านไม่เคยบอกใครให้รู้มาก่อน อาตมาคาดว่าท่านคงคิดว่าถึงบอกใครไปก็ไม่มีประโยชน์ และท่านคงรู้ดีอยู่แล้วเพราะท่านบวชมานานกว่า 38 ปี หรืออาจยังบวชอยู่ก็คงจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังจึงตัดสินใจสึก แล้วค่อยมาแก้ไขปัญหาทีหลังก็เป็นได้
ที่จริงแล้วอาตมามองว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ระหว่างคนสองคน อย่าลืมว่า ท่านบวชมาถึง 38 พรรษา ซึ่งไม่เคยมีภาพดังกล่าวออกมาให้เห็นมาก่อน 38 พรรษา ที่ท่านให้ความรู้ทางธรรมมะถือว่านานมาก แต่ที่ท่านตัดสินใจสึก คงเป็นเพราะท่านคงมีความสุขที่จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตคู่อีกรูปแบบหนึ่งในชีวิตซึ่งก็ถือว่าท่านคิดดีทำดีแล้ว
ส่วนภาพโยมผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ซึ่งอดีตก็เคยมาปฏิบัติธรรมที่วัดอยู่บ่อยๆ ส่วนข้อความที่เขียนไว้ในภาพอาตมาก็ไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อน ส่วนจะเป็นเหตุผลอันใดต้องไปสอบถามเอาเอง
ทั้งนี้ อยากฝากถึงญาติโยมชาวพุทธว่า ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติตนไม่เหมาะสมของพระเยอะมาก พระบางรูปอาจจะบวชมานานมากว่า 40 พรรษาก็มี แต่ไม่เป็นข่าวเพราะไม่ค่อยเป็นที่สนใจของสังคม ดังนั้น ญาติโยมต้องแยกกันให้ออกระหว่างบุคคลกับศาสนา เมื่อคนทำผิดแต่ศาสนาไม่ผิดเพราะศาสนาเป็นนามธรรมที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความผิดถูกของใคร ขอให้เรามั่นคงในเรื่องของศาสนา และให้มองเป็นเรื่องการกระทำของบุคคล
อย่างไรก็ตาม 38 พรรษาที่อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ ได้เข้ามาเผยแผ่ศาสนาในประเทศไทย และช่วยเหลือสังคมไทยมา ท่านได้ตั้งใจทำเต็มที่อย่างสุดความสามารถ เชื่อว่าญาติโยมเองก็คงทราบดี
ดังนั้น จะต้องนำคุณงามความดีที่ท่านสร้างมามาแยกแยะให้ถูก ถึงแม้ท่านจะสึกไปแล้วแต่ธรรมะที่ท่านสอน และตีพิมพ์ลงในหนังสืออ่านแล้วก็ก็เข้าใจง่ายเปรียบเทียบก็เหมือนหมอทำยารักษาโรค ถ้าคนป่วยนำยาไปกินแล้วเกิดเสียชีวิตไปก็ไม่ได้หมายความว่ายาที่คนไข้กินนั้นไม่ดี หรือยาพาราฯ หากคนปวดหัวแล้วไปกินแล้วหายก็เป็นประโยชน์ ธรรมะพระพุทธเจ้าก็เหมือนกัน ถึงแม้ตัวท่านจะเปลี่ยนไปเป็นฆราวาส แต่คำสั่งสอนก็ยังคงเป็นประโยชน์เช่นเดิม ถ้าเราแยกให้ออกมันก็ไม่มีอะไร
ส่วนกิจกรรมภายในวัดก็เป็นไปตามปกติ มีญาติโยมมาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนอาตมาก็ปฏิบัติตามที่อดีตเจ้าอาวาสได้วางแนวทางเอาไว้เช่นเดิม
ด้านอาจารย์ลัดดา สุวรรณกุล อายุ 71 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร จิตอาสาที่เข้ามาช่วยเหลือมูลนิธิภายในวัดนานกว่า 8 ปี กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังสอนเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม คุณความดีของท่านไม่สามารถลบเลือนสิ่งที่มันเกิดขึ้นที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้เพราะท่านเป็นคนต่างชาติที่ดิฉันบางครั้งรู้สึกอาย ที่เราเห็นอะไรเป็นปัญหาแล้วเราอยากจะหยุด แต่ท่านกลับบอกว่าไม่เป็นไรตั้งใจจะทำต้องทำให้สำเร็จ
สำหรับพื้นที่วัดแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ ที่ผ่านมา ท่านสามารถผลิตทั้งพระเณร และให้ธรรมะแก่ญาติโยมที่จะนำไปดำเนินชีวิตในการแก้ไขปัญหาชีวิตให้แก่ตัวเองได้ ตรงนี้เราก็ซาบซึ้งในน้ำใจของท่าน อีกทั้งไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อย
ทั้งนี้ อยากฝากไปยังประชาชนที่ติดตามข่าวว่า ขณะนี้วัดกำลังดำเนินโครงการ ไอ แอล เอ หรือครอบครัวประเทศไทย ซึ่งอดีตพระอาจารย์ท่านได้ดำเนินการมาแล้ว 1 ปี การศึกษากิจกรรมนี้ส่วนใหญ่จะทำให้แก่นักเรียน และครูในโรงเรียน ซึ่งท่านได้ผลิตหนังสือธรรมะออกมามากกว่า 1 ล้านเล่มแล้ว ก็มีเหมือนกันที่คนถามว่า ในเมื่อเจ้าของหนังสือธรรมะเป็นอย่างนี้ แล้วจะอธิบายให้แก่นักเรียนทราบอย่างไร ซึ่งก็บอกไปว่า คำสั่งสอนที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ โดยอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะมาทำให้มันอ่านง่ายต่อการเข้าใจของทั้งเด็ก และผู้ใหญ่