ร้อยเอ็ด - พิลึก ตัดไม้พะยูงห่างโรงพักเมืองสรวงแค่ 300 เมตร ตร.ไม่ทราบ ชาวบ้านสุดทน แจ้งชุดเฉพาะกิจ ภ.จว.จับกุมส่งมอบให้ท้องที่ดำเนินคดี เผยมีหญิงสาวนายทุนตัดไม้หอบเงินขอเคลียร์สื่อแต่ไม่สำเร็จรีบกลับ แต่ตำรวจไม่คุมตัวสอบหรือดำเนินคดี ซ้ำไม่ยอมให้ข้อมูลและรายละเอียดแก่สื่อมวลชน
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนลักลอบตัดไม้พะยูงและกำลังนำขึ้นรถในป่าหลัง สภ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ด้านทิศตะวันตก ประมาณ 300 เมตร จึงไปจับกุมและตรวจยึดไม้พะยูง 3 ท่อนที่บรรทุกอยู่ในรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 81-0513 อุบลราชธานี ที่จอดอยู่ในป่าบ้านหนองเม็กน้อย หมู่ 3 ต.หนองผือ อ.เมืองสรวง ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ ห่างจาก สภ.เมืองสรวงเพียง 300 เมตร แต่ละท่อนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40-80 เซนติเมตร มูลค่านับล้านบาท มีนายวรรณา จันทร์พวง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ 13 ต.บ่องาม อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับ
ตรวจสอบบริเวณในป่าพบตอไม้พะยูงที่เพิ่งตัดใหม่ 3 ต้น ซึ่งนายวรรณาก็ยอมรับว่าเป็นไม้ที่ตัดออกมาจากตอดังกล่าว และนำมาจากป่าดงแดง อ.จุตรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด อีก 1 ต้นมารวมกันขึ้นรถ โดยตนไม่ทราบว่าเป็นไม้ของใคร ทราบแต่มีคนโทรศัพท์ว่าจ้างในราคา 40,000 บาทให้มารับไม้ไปส่งใน จ.นครพนม เมื่อถึงที่แล้วผู้ว่าจ้างจะแจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์ว่าจะให้นำไม้ไปลงที่ใด
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมคนขับรถพร้อมรถบรรทุกไม้ของกลางมาถึง สภ.เมืองสรวงเพื่อบันทึกหลักฐาน และตรวจสอบความเป็นมาของไม้ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ปรากฏว่ามีผู้หญิงผิวขาว รูปร่างเล็ก ซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นนายหน้าหาซื้อไม้พะยูงในพื้นที่ มาพร้อมกับชายสูงอายุคนหนึ่ง เดินมาหาผู้สื่อข่าวบอกว่าจะนำเงินมาเคลียร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้สื่อข่าวไม่ให้นำเสนอข่าว
จากนั้นก็จะเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ภายหลัง ผู้สื่อข่าวจึงปฏิเสธไป และบอกกับชายที่มาติดต่อว่าจะทำข่าวอย่างตรงไปตรงมาเท่าที่พบ และได้ข้อมูลมา เมื่อหญิงสาวพบกับพนักงานสอบสวนก็แจ้งพนักงานสอบสวนว่าไม้ดังกล่าวได้รับอนุญาตถูกต้อง ไม่น่าจะมีความผิด พร้อมกับนำเอกสารที่อ้างว่าเป็นหลักฐานการขออนุญาตมาแสดง และขอเคลียร์กับพนักงานสอบสวนขอให้ปล่อยรถไป แต่เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล หญิงคนดังกล่าวก็เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวนแล้วหลบหนีไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงสอบถามรายละเอียดจาก ร.ต.อ.วิเชียร วงค์ภูธรณ์ ร้อยเวรสอบสวน เพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร ชื่อคนขับ จำนวนไม้ที่ยึดไว้ตรวจสอบ และชื่อหญิงสาวที่มาเคลียร์คดีว่าเป็นใคร ปรากฏว่า ร.ต.อ.วิเชียรไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามรายละเอียดจาก พ.ต.ท.สุคิด เพ็ชรโยธา หัวหน้าพนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองสรวง บอกว่าเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาแก่นายวรรณา เพียงแต่สั่งให้พนักงานสอบสวนบันทึกตรวจยึดรถและไม้ทั้งหมดไว้เพื่อการตรวจสอบเท่านั้น และแม้มีผู้นำเอกสารมาแสดงว่าเป็นต้นไม้ที่ตัดในที่ที่มีเจ้าของก็ต้องทำการตรวจยึดไว้ เพื่อรอการประสานให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ผู้ชำนาญการจากป่าไม้เขตขอนแก่น และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ดมาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน
ทั้งนี้ พ.ต.ท.สุคิดปฏิเสธที่จะให้สื่อมวลชนดูหลักฐานที่หญิงคนดังกล่าวนำมาอ้าง โดยกล่าวว่าการที่จะให้สื่อมวลชนทราบรายละเอียดและหลักฐานทุกอย่างที่นำมาอ้างล้วนเป็นอำนาจของ พ.ต.อ.นพพร แก้วยนต์ ผกก.สภ.เมืองสรวง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการจับกุมไม้และรถครั้งนี้กลับเป็นชาวบ้านที่เห็นความผิดปกติ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ภ.จว.มาทำการจับกุมโดยไม่แจ้งให้ตำรวจท้องที่ทราบ เมื่อจับกุมแล้วจึงส่งมอบคดีให้ตำรวจท้องที่สอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป
