สระแก้ว - ชาวบ้านร้องนายทุนนำแบ็กโฮทุบทำลายบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 20 หลัง เพื่อขับไล่ให้พ้นที่ดิน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านอาศัยมานานนับร้อยปี และเรื่องอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ชี้ไม่โปร่งใสเรื่องการออกเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายจำนงค์ คงฤทธิ์ ผู้อำนวยการนิคมสร้างตนเองคลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่มาดูการรังวัดชี้เขตที่ดินของนายทุนรายหนึ่งที่นำเอกสารสิทธิที่ดินหน้าโฉนดมาอ้างสิทธิฟ้องร้อง หลังเจ้าหน้าที่ดินอรัญประเทศ และตำรวจ เดินทางมาถึงได้ทำการรังวัดลงหลักโฉนด แต่ชาวบ้านได้ลุกฮือขัดค้านเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ยินยอมให้วัดแนวเขตได้ แต่หลังเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าทำการรังวัดกลับรังวัดเข้าไปในที่ดินของนิคมฯ ซึ่งมีชาวบ้านทำกินมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ถูกนายทุนคนดังกล่าวนำกรมบังคับคดี เข้าทำการทุบทำลายจนบ้านของชาวบ้านกว่า 20 หลัง กลายเป็นเศษอิฐเศษปูน
หลังเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าทำการรังวัด โดยเข้าไปวัดในเขตที่ดินของนิคมสร้างตนเองร่วม 100 ไร่ ทั้งที่หลักฐานในโฉนดมีเพียง 40 ไร่เท่านั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่นิคมฯ กลับเฉยไม่กล้าคัดค้านกลุ่มนายทุนที่ทำการรังวัดบุกรุกที่ดินของนิคมฯ แต่อย่างใด
ด้านนางบาง ศรสุวรรณ อายุ 71 ปี ซึ่งบ้านของตนเองถูกนายทุนนำแบ็กโฮเข้าทุบจนพังไม่มีชิ้นดี บ้านหลังดังกล่าวเลขที่ 73 ม. 4 เดิมซึ่งปัจจุบันเป็น ม.1 ต.ฝากห้วย อ.อรัญประเทศ และต้องอพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง กล่าวว่า พวกตนอยู่มานานนับร้อยปีหลายชั่วอายุคน อยู่ๆ ก็มีนายทุนนำโฉนดมาฟ้องขับไล่ที่ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเข้าไปตรวจสอบจนพบว่า โฉนดดังกล่าวออกมามีพิรุธหลายอย่าง เช่น โฉนดแปลงนี้ออกมาโดยไม่มีชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงเซ็นรับรองแนวเขตที่ดินให้ ทั้งทางหลวง และกรมเจ้าท่าไม่มีการเซ็นรับรองแนวเขตที่ดินแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางที่ดินอรัญประเทศอ้างว่า นายทุนรายนี้มี ส.ค.1 มายื่นขอออกโฉนด แต่หลังมีการขอตรวจสอบหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวไม่เคยมีการออก ส.ค.1 ให้ชาวบ้านแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงตั้งข้อสงสัยว่าการออกโฉนดดังกล่าวน่าจะไม่ชอบมาพากล
นางบาง กล่าวต่อไปว่า ส่วนการนำกรมบังคับคดีเข้าทำการทุบทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน ก็ทำกันเกินเลยกว่าคำสั่งศาล ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ชาวบ้านออกไปจากที่ดินที่มีการพิพากษาก่อนเท่านั้น เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด ไม่ได้มีคำพิพากษาให้เข้าไปทุบทำลายบ้านเรือนของชาวบ้านแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้กรมบังคับคดีทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่ แต่หลายฝ่ายกลับนิ่งเฉยปล่อยให้ชาวบ้านถูกนายทุนซึ่งมีอิทธิพลเข้าไปรังแกอย่างไม่เป็นธรรม