กาญจนบุรี - ชาวนาเมืองกาญจน์เผย หาก 29 มิ.ย. ขอราคา 15,000 บาทต่อตันไม่คืบ พร้อมนำมวลชนชาวนาภาคกลางบุกกรุงทันที
วันนี้ (21 มิ.ย.) นายสมปอง คำเที่ยง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวนา กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม เป็นช่วงที่มีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดสูงสุด ดังนั้น การที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ประกาศปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้โรงสีใน จ.กาญจนบุรี ทั้ง 13 แห่ง และโรงสีภายนอกพื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติให้เปิดรับจำนำข้ามเขตอีก 5 แห่ง จะเปิดจุดรับจำนำไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน ซึ่งเกษตรกรต่างรู้สึกพอใจในระดับหนึ่ง
แต่ราคารับจำนำที่ปรับลดลงเหลือ 12,000 บาทต่อตัน กลุ่มชาวนาไม่พอใจอย่างมาก เพราะเท่ากับรัฐบาลผิดสัญญา และเหมือนชาวนาถูกหลอก เนื่องจากงทุนปลูกข้าวไปแล้ว บางรายยอมเสียเงินเช่าที่ทำนาไร่ละ 2,500 บาท แต่เมื่อประกาศปรับลดราคา ทำให้ชาวนายอมรับไม่ได้ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรับซื้อในราคา 15,000 บาท ไปจนสิ้นสุดโครงการวันที่ 15 กันยายนตามเดิม เพราะเหลือเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเศษเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเกษตรกรชาวนาภาคกลางได้พูดคุยกัน โดยเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) และ กขช.ทบทวนมติ เพราะโครงการดำเนินการไปช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ยังเหลือผลผลิตข้าวไม่มากนัก จึงขอให้รัฐบาลช่วยให้ผ่านพ้นฤดูกาลนี้ไปก่อน ก็จะไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับชาวนา ซึ่งในพื้นที่ภาคกลางเหลือผลผลิตข้าวไม่กี่จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และพระนครศรีอยุธยา อีกเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่หากรัฐบาลไม่ทบทวนมติ และไม่มีคำตอบให้แก่เกษตรกรชาวนาก่อนวันที่ 29 มิถุนายนนี้ กลุ่มชาวนาก็จะรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องต่อไป
นายราเมต ประพันธ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/6 หมู่ 3 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ครอบครัวทำนา 20 ไร่ หลังจากรัฐบาลมีนโยบายจำนำข้าวในราคาตันละ 15,000 บาท ตนและครอบครัวก็เห็นด้วย และสนับสนุนโครงการมาตั้งแต่เริ่มมีการหาเสียง เพราะจะทำให้ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้น แต่ขณะนี้รัฐบาลกลับมีมติให้ลดราคา เมื่อนำมาคำนวณกับค่าใช้จ่าย เช่น ค่าปุ๋ย และค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ค่าแรงงาน ค่าเช่ารถไถ และถูกหักค่าความชื้นอีก หมายความว่าชาวนาไม่เหลืออะไรเลย ซ้ำยังต้องมาขาดทุนอีก และที่สำคัญข้าวที่อยู่ในนายังไม่ได้เก็บเกี่ยวแม้แต่ไร่เดียว จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ขอให้ยืดเวลารับจำนำข้าวออกไปตามที่เคยกำหนดเอาไว้ เพื่อให้ชาวนาได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวข้าวได้เสียก่อน จากนั้นค่อยมาหาทางออกร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือร่วมกับกลุ่มแกนนำเกษตรกรชาวนาที่มาชุมนุมเรียกร้องนั้น ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยชี้แจงว่ากรณีการกำหนดราคาเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล จังหวัดไม่สามารถแก้ไขให้ได้ แต่จะได้เร่งส่งหนังสือที่กลุ่มเกษตรกรเรียกร้องผ่านไปให้แก่รัฐบาลโดยเร็ว
และจากการที่ลงพื้นที่ตรวจโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว ปรากฏว่า จุดรับจำนำข้าวทั้ง 13 แห่ง มีจำนวนครบถ้วน ทั้งข้าวเปลือก และข้าวสารตามบัญชี ไม่พบปัญหาการทุจริตแต่อย่างใด และโรงสีทุกแห่งยังเปิดจุดรับจำนำตามปกติ
