หน.เขตพันธุ์สัตว์แม่น้ำภาชี ตรวจสอบฝูงหมูป่าก่อนจับไปปล่อยฟาร์มโครงการพระราชดำริ

ราชบุรี - รองผู้ว่าฯ ราชบุรี พร้อม หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี และปศุสัตว์จังหวัด เข้าตรวจสอบหมูป่าในพื้นที่รกร้างซอยชมพู่ และซอยสันติสุข เขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังพบมีหมูป่านับร้อยตัวถูกปล่อยทิ้งไว้ในป่าโดยไม่มีเจ้าของ เผยเตรียมย้ายไปปล่อยในฟาร์มโครงการฟาร์มตัวอย่างโครงการพระราชดำริ สวนผึ้ง

เวลา 14.00 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) นายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี นางวิมลรัตน์ สุภาคม ปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านร้าง บริเวณซอยชมพู่ และซอยสันติสุข เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เป็นที่อาศัยของหมูป่าที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในป่ารกร้างไม่มีเจ้าของ

นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี กล่าวว่า จากการมาสำรวจดูหมูป่าวันนี้ ปกติพันธุ์หมูป่าจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์หน้าสั้น และพันธุ์หน้ายาวที่มีลายสีขาวพาด ส่วนหน้าสั้น จะมีขนมากปรากฏที่บริเวณคอมีความดุร้าย

“จากการตรวจสอบหมูป่าที่พบครั้งนี้โดยเฉพาะหุ่นสรีระ ไม่ใช่หมูป่าบ้านเรา เข้าใจว่าน่าจะเป็นหมูป่าจีนพันธุ์ป่วยกุย หมูป่าพวกนี้จะมีกลุ่มเรือชาวประมงจากจังหวัดสมุทรสาคร แถวมหาชัยไปเอามาโดยนำลงเรือแล้วกลับมาเลี้ยง ซึ่งมีลักษณะขยายพันธุ์ได้เร็ว เท่าที่ทราบ เนื้อมีรสชาติดีเหมือนหมูป่า ปกติหมูพันธุ์นี้ไม่ดุร้าย อาศัยอยู่ในป่าก็จะมีความเร็วในการวิ่งหนี ไม่มีความดุร้ายเหมือนหมูบ้านเรา เนื่องจากหมูป่าไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่ใช่สัตว์ป่าสงวน ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกรมอุทยาน หรือกรมป่าไม้เดิม เบื้องต้นนายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ประสานตนให้ช่วยมาจัดการ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกินความต้องการของชาวบ้าน หรือที่ไปรบกวนชาวบ้านจะได้ขนย้ายไปยังที่ปลอดภัย

เบื้องต้นจะนำไปไว้ที่ฟาร์มตัวอย่าง บ้านบ่อหวี ในโครงการพระราชดำริ หมู่ที่ 4 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งกรมอุทยานได้ทำสร้างคอกเลี้ยงหมูป่าไว้ ประมาณ 1 ไร่ และมีแหล่งอาหารที่สามารถให้หมูป่าหากินได้ อีกส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านอยู่ได้ก็จะเอาไว้ที่นี่ก่อน ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นการยากที่จะจับหมูทั้งหมดนี้ แต่เราจะจับตัวที่เกินปริมาณที่ไปรบกวนชาวบ้านไปก่อน”

นายประทีป กล่าวต่อว่า อีกส่วนได้รับการประสานจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) สวนผึ้ง เพื่อจะขอนำหมูป่าส่วนหนึ่งไปเลี้ยงไว้เพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตามรีสอร์ตต่าง ๆ จะเลี้ยงแกะ และจะมีอาหารหญ้าไว้คอยป้อนให้แกะกิน ซึ่งทาง อบต.สวนผึ้ง มีแนวคิดจะใช้ที่สาธารณะที่เป็นป่าอยู่แล้ว โดยจะสร้างกรงเฉพาะข้างหน้า ส่วนข้างหลังจะเป็นภูเขา เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะนำอาหารไปเลี้ยงหมูป่าเหมือนกับเลี้ยงแกะ

“ตามข้อกฎหมายหมูป่าจะอยู่ในความดูแลของกรมปศุสัตว์ ปกติแล้วถ้าอยู่ในวัด หรืออยู่สถานที่สาธารณะก็จะมีความผิด แต่สำหรับพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกรมอุทยาน ซึ่งเราจะช่วยเรื่องการขนย้ายแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะดำเนินการจับบางส่วนไปก่อนโดยทำอย่างนุ่มนวล เพื่อย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยมากกว่านี้ เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนจะมีพวกสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งลูกหมูป่าจะตกเป็นเหยื่อของสุนัขเหล่านี้ได้ และอาจมีคนบางคนแอบมาจับไปขาย หรือเป็นอาหารกิน” นายประทีปกล่าว

อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี นำรถสายตรวจออกตรวจสอบพื้นที่ซอยสมภู่เชื่อมต่อซอยสันติสุข และซอยใกล้เคียงที่คาดว่าจะมีหมูป่าอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีกลุ่มคนพยายามจะจับหมูไปฆ่ากิน และจับไปเลี้ยง ซึ่งชาวบ้านบางคนให้ข้อมูลว่า ถึงกับมีวัยรุ่นใช้ไม้ปลายแหลมยาววิ่งแทงลูกหมูจากทวารหนักจนทะลุลำตัวตายเพื่อนำไปกินเป็นอาหารอย่างทารุณด้วย