xs
xsm
sm
md
lg

งานมันนานาชาติที่โคราชคึกคัก ชี้ไทยมุ่งเป็นศูนย์กลางค้ามันของโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

งานประชุมสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติ และงานนิทรรศการมันสำปะหลังแห่งชาติ ปี 2556   คึกคัก ผู้ประกอบการมันสำปะหลังทั้งชาวไทย ต่างประเทศ  และเกษตรกรชาวไร่มันทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,000 คน ที่  มทส. จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 20 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - งานสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติที่โคราชคึกคัก ผู้ค้าและเกษตรกรทั้งไทยและเทศแห่ร่วมงาน ชี้ไทยต้องรักษาคุณภาพส่งออกอันดับ 1 ของโลกให้ได้ ระบุอนาคตมันไทยสดใส คาดปีนี้ส่งออกทะลุ 9 หมื่นล้าน แต่ต้องสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปให้หลากหลาย ตีตลาดใหม่เพิ่มขึ้น แนะ ผู้ประกอบการและเกษตรกรต้องปรับตัวรับการแข่งขันในเออีซี และมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการค้ามันครบวงจรของโลก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการจัดประชุมสัมมนามันสำปะหลังนานาชาติ และงานนิทรรศการมันสำปะหลังแห่งชาติ ปี 2556 มีผู้ประกอบการ ผู้ค้ามันสำปะหลังทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ชาวไร่มันสำปะหลังทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดยภายในงานจัดให้มีการเสาวนาเรื่อง "ทิศทางการผลิตและการค้ามันสำปะหลัง" และการจัดนิทรรศการความก้าวหน้า และเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมผลิตมันสำปะหลังของไทย

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า งานวันนี้เน้นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยด้านการแข่งขัน ตั้งแต่ขบวนการผลิตต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำดังนั้นผู้ที่เข้ามาร่วมงานจะได้มั่นใจว่า ในอนาคตสินค้ามันสำปะหลังของไทย และผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง จะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีมาตรฐานสากล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ในอนาคตมันสำปะหลังของไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก

สำหรับประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์มันสะปะหลังอันดับ 1 ของโลก รองลงมา คือ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกกว่า 87,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าไม่น้อยกว่า 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากไทยจะยังคงรักษาอันดับ 1 เอาไว้ ต้องรักษาคุณภาพที่สูงและผลผลิตต่อไร่ต้องเพิ่มสูงขึ้นเอาไว้ รวมถึงต้องมีการแปรรูปที่หลากหลายมากขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของตลาดโลก และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก คือ เรื่องความสะอาด การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาให้เกิดความหลากหลาย ทั้งเรื่องของสายพันธุ์มันและผลิตภัณฑ์

น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า ตลาดส่งออกมันสำปะหลังหลักคือ จีน ซึ่งมีแนวโน้มต้องการมันจากไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ในอนาคตไทยควรพัฒนาให้มีความหลากหลาย ไม่ส่งออกเฉพาะเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบเท่านั้น แต่ควรส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยตลาดที่น่าสนใจมีทั้งสหรัฐอเมริกา เกาหลี และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีการพัฒนาแล้ว ทำให้มีความหลากหลายและสร้างมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มมากขึ้น

ด้านนายสิน กุมภะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังประมาณ 7.9 ล้านไร่ ผลผลิตต่อปีประมาณ 27 ล้านตัน สร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลังราว 2.6 ล้านคน และมีแรงงานที่อยู่ในภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับมันสำปะหลังอีกกว่า 1 ล้านคน

ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตมันสำปะหลังอันดับ 3 ของโลก รองจากไนจีเรีย และบราซิล ที่สำคัญเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับ 1 ของโลก มีสัดส่วนถึงร้อยละ 80 โดยในปี 2555 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันมูลค่ากว่า 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 87,000 ล้านบาท ถือเป็นปีที่มีการส่งออกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยสำคัญ คือ คุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรัฐในระดับสากล

นายสิน กล่าวว่า ปี 2558 ไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ดังนั้นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง จำเป็นต้องมีการปรับตัวและเตรียมความพร้อม ทั้งการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การปรับปรุงสายพันธุ์มัน การพัฒนาระบบชลประทาน และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปวัตถุดิบขั้นต้น ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มัน รวมถึงการให้ความรู้เกษตรกรเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น

"ทั้งหมดนี้เป็นความท้าทายที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศคู่ค้า ว่าไทยยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และไทยจะมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการค้ามันสำปะหลังอย่างครบวงจร โดยมีเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังของโลก"








กำลังโหลดความคิดเห็น