ระยอง - โรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมกับเพื่อนชุมชนรอบโรงงาน ปลูกต้นไม้บริเวณร่องกลางถนนปรับทัศนียภาพ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประธานเปิดโครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ปลูกต้นไม้ถนนสาย 336 แยกเนินสำลี ทางเข้าโรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีนายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นายธาดา สุนทรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก นายอนุลักษณ์ ถนอมสิทธิกุล ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อนชุมชน นายกัญจน์ ปทุมราช ผู้บริหารสมาคมเพื่อนชุมชน พนักงาน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด เจ้าหน้าที่เพื่อนชุมชนร่วมปลูกต้นไม้
นายวราวุธ กล่าวว่า สมาคมเพื่อนชุมชนได้จัดโครงการปลูกต้นไม้สร้างอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ ชุมชนเทศบาลเมืองมาบตาพุด ชุมชนเทศบาลตำบลบ้านฉาง ร่วมปลูกต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนสาย 363 ตั้งแต่สี่แยกเนินสำลี จนถึงทางเข้านิคมอุตสาหกรรม ในความรับผิดชอบของแขวงการทางระยอง
โดยถนนสายนี้เสมือนเป็นประตูเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรม สมาคมเพื่อนชุมชนได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปรับปรุงทัศนียภาพทางเข้าโรงงานอุตสาหกรรม และให้การสนับสนุนงบประมาณดูแลจนต้นไม้เจริญเติบโตแข็งแรง เนื่องจากเห็นว่าระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมหลัก ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชุมชน และอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
นายกัญจน์ กล่าวว่า สมาคมเพื่อนชุมชนก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในมาบตาพุด เพื่อพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งหวังให้อุตสาหกรรม และชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้ เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลัก คือ ปฏิบัติการโรงงานสีเขียว หรือ Green Operation เพื่อดูแลช่วยเหลือโรงงานอุตสาหกรรมด้วยกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดให้มีมาตรฐานทัดเทียมกัน โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชุมชน ส่งเสริมโครงการที่มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยการปลูกต้นไม้ครั้งนี้ได้ใช้ต้นชงโค 1,400 ต้น ซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 32 ตันต่อปี และยังมีดอกที่สวยงามหอมสดชื่นด้วย