ชาวชุมพลบุรีสุรินทร์ฮือไล่พระเดือด บุกเข้าอุ้มหวิดปะทะ จนท.ระดมกำลังคุมเข้ม

สุรินทร์ - ชาวบ้านอำเภอชุมพลบุรี สุรินทร์ กว่า 100 คน บุกสำนักสงฆ์ขับไล่พระ ฮือล้อมกรอบเข้าอุ้มหวิดปะทะเดือดหลายครั้ง แต่พระไม่ยอมยังซ่อนตัวอยู่ใต้กุฏิ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมยังปักหลักปิดล้อม เอาไว้ พร้อมยื่นคำขาดต้องออกจากสำนักสงฆ์ในวันนี้ ขณะพระชี้มีนายทุนบุกรุกที่สาธารณะสำนักสงฆ์อยู่เบื้องหลังม็อบขับไล่

วันนี้ (16 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่สำนักสงฆ์บ้านเขวาโค้ง ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีกลุ่มชาวบ้านเขวาโค้ง ม.4 ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี กว่า 100 คน พร้อมเครื่องขยายเสียง และป้ายข้อความขับไล่ เดินทางมาขับไล่พระปราโมทย์ ขนติโก พระสำนักสงฆ์บ้านเขวาโค้ง หลังเจ้าคณะอำเภอชุมพลบุรี ได้มีคำสั่งที่ 03/2556 เรื่อง การให้พระภิกษุสงฆ์ออกจากสำนักสงฆ์ เพื่อความสงบเรียบร้อย และเพื่อให้เห็นแก่พระพุทธศาสนา ลงวันที่ 14 มิ.ย.2556 ที่ผ่านมา แต่พระปราโมทย์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจจึงรวมตัวกันมาภายในสำนักสงฆ์เพื่อขับไล่ในวันนี้

โดยชาวบ้านที่มาขับไล่ได้พยายามฮือเข้าไปจับตัวพระปราโมทย์ เพื่ออุ้มออกไปจากสำนักสงฆ์ให้ได้ ขณะที่พระปราโมทย์ ไม่ยินยอมพร้อมบอกญาติโยมฝ่ายตนเองเข้ามาปกป้องล้อมตัวเองเอาไว้ ซึ่งชาวบ้านกลุ่มผู้ชุมนุมได้ลุกฮือขับไล่ตลอดเวลาจนหวิดเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และปลัดอำเภอชุมพลบุรี ต้องระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด

จากนั้นยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะชาวบ้านกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ไม่ยินยอม พร้อมยื่นคำขาดให้พระปราโมทย์ รวมทั้งพระสงฆ์ และแม่ชีทั้งหมดออกจากสำนักสงฆ์ภายในวันนี้ ขณะที่ พระปราโมทย์ ได้เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในกุฏิใต้ดินภายในศาลาสำนักสงฆ์ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านยังชุมนุมยังปิดล้อมเอาไว้ไม่ยอมสลายตัวกลับเช่นกัน

นายวิชัย แสนรส อดีตเลขานายก อบต.นาหนองไผ่ แกนนำชาวบ้านกลุ่มผู้ชุมนุม บอกว่า ชาวบ้านไม่พอใจพระปราโมทย์ เพราะสร้างความแตกแยกให้แก่ชาวบ้าน ชอบแสดงความคิดเห็น และขัดขวางโครงการงบประมาณของหมู่บ้าน ใช้วาจาไม่สุภาพพูดจาหยาบคายกับญาติโยม ขัดขวางชาวบ้านไม่ให้สูบน้ำในแม่น้ำมาใส่นาข้าว อีกทั้งยังปลอมแปลงใบสุทธิพระ และแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ใหญ่เขวาโค้ง กับสมาชิกสภาเทศตำบลนาหนองไผ่ ในเรื่องการตรวจสอบใบสุทธิพระ เพราะทั้ง 2 คน ไปเป็นพยานให้แก่ชาวบ้าน พระปราโมทย์ จึงไม่พอใจ

“เมื่อชาวบ้านร้องเรียนไปยังเจ้าคณะอำเภอชุมพลบุรี ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วเจ้าคณะอำเภอได้สั่งให้พระในสำนักสงฆ์บ้านเขวาโค้งทั้งหมดออกจากสำนักสงฆ์ภายในวันที่ 14 มิ.ย.2556 แต่พระปราโมทย์ ขันติโก เพียงรูปเดียว ที่ไม่ยอมออกจากสำนักสงฆ์ ซึ่งชาวบ้านไม่ยอมจึงพากันมาประท้วงขับไล่จนถึงที่สุด” นายวิชัยกล่าว

ด้านนายสมทรัพย์ บุญเลิศ กำนันตำบลนาหนองไผ่ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนรับทราบมาตลอดเวลา และทราบว่า ได้มีความพยายามก่อความวุ่นวาย จึงขอร้องให้ทุกคนเจรจากันด้วยความสงบสันติ และขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่อยากให้ทุกคนทุกฝ่ายได้มีการเจรจาพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาให้ยุติลงด้วยดี ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน

นายเฉลิมพล แสงสว่าง ปลัดอำเภอชุมพลบุรี กล่าวว่า อยากให้ชาวบ้านได้เดินทางไปเจรจากันที่อำเภอชุมพลบุรี ในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย.นี้เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเดินทางมาร่วมรับฟัง และแก้ไขปัญหาด้วย แต่สุดท้ายชาวบ้านก็ไม่ยอมและต้องการให้ พระปราโมทย์ ต้องออกจากสำนักสงฆ์ภายในวันนี้

ด้านพระปราโมทย์ ขันติโก กล่าวว่า ที่ดินสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ที่ถูกบุกรุก ซึ่งอาตมาเข้าใจในเรื่องของข้อกฎหมาย และพยายามที่จะเอาที่สาธารณะประโยชน์กลับคืนมา จึงมีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลังชาวบ้านมาขับไล่อาตมาออกจากพื้นที่
 
ซึ่งหลังจากเจ้าคณะอำเภอชุมพลบุรี ได้มีคำสั่งให้พระออกจากสำนักสงฆ์แล้ว อาตมาก็ได้เดินทางไปพบเจ้าคณะอำเภอชุมพลบุรี ก็ทราบว่า มีทั้งสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์มาหาเจ้าคณะอำเภอ ถามเรื่องใบสุทธิ พราะเกรงว่าจะติดคุก หากใบสุทธิพระออกไม่ถูกต้อง และมันจะเกิดกลียุค แต่มันเกิดกลียุคแล้ว และก่อปัญหาตามมาอีกหลายอย่าง ทั้งนี้ อาตมาจะไม่ออกจากตรงนี้ แต่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้เสร็จสิ้น