ตาก - เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้งชี้ พม่าเปลี่ยนวันต่อวัน พัฒนาเศรษฐกิจเร็วมาก ระบุต้องเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด กับเมกะโปรเจกต์ ทั้งทวาย-ยะไข่-ตินนาวา และย่างกุ้งให้ได้
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า กล่าวในโอกาสเดินทางไปสำรวจศึกษาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด-เมียวดี พร้อมประชุมร่วมกับนายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สอดว่า พม่ามีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาเศรษฐกิจได้รวดเร็วมากชนิดวันต่อวัน จึงขอให้นักธุรกิจและคนไทยตามให้ทัน
นายพิษณุบอกอีกว่า ล่าสุดขณะนี้รัฐบาลพม่าได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในประเทศได้เกือบหมดแล้ว ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง การสู้รบกับชนกลุ่มน้อย จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพม่าได้เจรจากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยจนสามารถยุติการสู้รบจนเกือบปกติ จะมีเพียงความขัดแย้งส่วนตัวกับคนในกลุ่ม ส่วนการเมืองนั้นพม่ามีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี กับนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านก็ทำงานด้วยกันได้ดี ไม่มีการโจมตีในเรื่องส่วนตัว ไม่มีการให้ร้ายกัน แต่จะทำงานในหน้าที่ของตัวเอง
ทั้งเต็งเส่ง และซูจีมีการจับมือเพื่อพัฒนาประเทศก่อนที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC มีความร่วมมือที่จะเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจของพม่า สิ่งที่เห็นชัดเจนคือการพัฒนาประชาธิปไตย และการใช้หลักสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรมในการบริหารประเทศของผู้นำในยุคปัจจุบันจนชาวพม่า และนานาชาติเริ่มยอมรับ อีกทั้งรัฐสภาของพม่าเองก็มีการออกกฎหมายที่ดีและเป็นธรรมต่อประชาชน รวมทั้งมีกฎหมายที่ออกมาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้นักธุรกิจ-นักลงทุนเพื่อให้ไปลงทุนในพม่ามากขึ้น
และสิ่งสำคัญ รัฐบาลพม่าเปิดกว้างกับโลกข่าวสาร จะเห็นได้ว่ามีสื่อต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ในพม่าออกมามากขึ้นหลายฉบับ และสามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐอย่างเสรี จุดนี้เองทำให้นักธุรกิจเกิดความมั่นใจในการเดินทางไปลงทุน จึงอยากขอให้นักธุรกิจและชาวไทยได้ติดตามสถานการณ์ในพม่าให้ทันเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
“สิ่งที่นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนชาวอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะต้องทำในอนาคตอันใกล้นี้คือ การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดกับโครงการขนาดใหญ่ในพม่าให้ได้ ซึ่งมีอยู่ 3-4 โครงการที่รัฐบาลพม่ากำลังดำเนินโครงการ คือ โครงการเขตเศรษฐกิจย่างกุ้ง-โครงการในรัฐยะไข่-เมืองตินนาวา ตลอดจนทวายโปรเจกต์ หากเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดกับโครงการใหญ่ในพม่าได้ทุกโครงการจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อชาวแม่สอด ชาวแม่สอดอย่ามองที่เมืองเมียวดีอย่างเดียว ต้องมองข้ามไปถึงเมกะโปรเจกต์ในพม่าทุกโครงการให้เชื่อมโยงกันให้ได้” นายพิษณุกล่าว
ทั้งนี้ คณะเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อขอทราบรายระเอียดของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งยังมีกำหนดการที่จะไปสำรวจและศึกษาข้อมูลทางด่านพรมแดนที่ติดต่อกับพม่าจุดอื่นๆ เช่นที่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี ราชบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ยังได้นำนายถาวร เนียมนำ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายควบคุมยาเสพติด และนายธนันท์ชัย พยัคฆ์เกษม อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านข่าวกรอง เดินทางลงพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า เพื่อดูปัญหาการค้ายาเสพติดด้วย