xs
xsm
sm
md
lg

โต้ไม่มีรถหรู 2 พันคันในแหลมฉบัง- ผอ.ยันมีเพียง 200 คันรอส่งมอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ขณะนำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบรถหรูในคลังสินค้าฟรีโซน
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.ทลฉ.ออกโรงโต้ข่าวรถหรู 2 พันคันจอดในท่าเรือฯ ตรวจสอบทีีคลังสินค้าอันตราย พบ รถซูเปอร์คาร์ 81 คันที่จอดรอทำพิธีการ ส่วนที่คลังสินค้าฟรีโซน มีเพียง 128 คัน รอเจ้าของนำใบอนุญาตรับรถเพื่อเสียภาษี ชี้ทุกคันล้วนผ่านขั้นตอนการนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่กลุ่มรถจดประกอบที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้

วันนี้ (10 มิ.ย.) เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.)อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับรถหรูที่จอดในคลังสินค้าอันตราย ซึ่งการท่าเรือเปิดให้บริษัท เจดับเบิลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด เข้าบริหารและประกอบการ และที่คลังสินค้าฟรีโซน หลังมีการเผยแพร่ข่าวว่ามีรถหรูจอดอยู่ในท่าเรือแหลมฉบังถึง 2 พันคันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และอาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนของการนำเสนอ โดยเชื่อว่ารถหรู 2 พันคันน่าจะเป็นกลุ่มรถจดประกอบที่กำลังมีปัญหาซึ่งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบที่คลังสินค้าอันตราย ซึ่งการท่าเรือ เปิดให้บริษัท เจดับเบิลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด เข้าบริหาร และประกอบการ พบมีเพียงรถซูเปอร์คาร์ 81 คันที่จอดรอทำพิธีการ ส่วนที่คลังสินค้าฟรีโซน มีรถหรู 128 คันที่รอเจ้าของนำใบอนุญาตรับรถเพื่อเสียภาษี

สาเหตุที่ต้องนำรถดังกล่าวไปจอดในคลังสินค้าอันตราย ก็เพราะเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขเกี่ยวกับอนุสัญญาองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (Internation Martime Organization) หรือ IMO ที่ได้ประกาศว่า รถยนต์ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยบรรจุอยู่ในตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ จะถูกระบุว่าเป็นสินค้าอันตรายที่จะต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าอันตราย โดยจะมีการนำเข้า 2 ประเภท คือ ตู้สินค้า LCL คือตู้สินค้าที่ขนถ่ายมาจากเรือ และเมื่อมาเปิดตู้ที่คลังอันตราย จะต้องนำสินค้าออกวางเก็บที่ลานจนกว่าจะทำพิธีการเสร็จ และตู้สินค้า FCL คือตู้สินค้าขนถ่ายจากเรือแล้วลากไปเปิดตรวจที่คลังสินค้าภายนอกท่าเรือโดยไม่มีการเปิดตู้

ส่วนรถหรุที่จอดในคลังฟรีโซน เป็นรถยนต์ที่เปิดตู้แล้วนำมาฝากไว้เพื่อรอการดำเนินการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การขออนุญาตนำเข้า การตรวจมาตรฐานก่อนเสียภาษีอากรแล้วจึงนำออกไป ซึ่งรถยนต์เหล่านี้นำเข้ามาทั้งคัน และต้องดำเนินการขออนุญาตและชำระภาษีก่อนนำออกจากคลัง

“การเปิดแถลงข่าวในวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงของข่าวรถหรู 2 พันคันที่ระบุว่า อยู่ในท่าเรือแหลมฉบังว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งภายในท่าเรือฯ จะมีการนำเข้ารถหรูมาจอดในคลังสินค้าทั้ง 2 คลัง เฉลี่ยเพียง 200 กว่าคันต่อเดือนเท่านั้น ที่สำคัญรถหรูที่นำเข้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการนำเข้ามาเพื่อใช้ แต่รถหรูที่มีปัญหาและที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้คือ รถจดประกอบ ซึ่งจะนำเข้ามาในลักษณะชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบเป็นคันใหม่ ถือเป็นคนละส่วนกับรถที่นำเข้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง”

เรือเอกสุทธินันท์ ยังเผยอีกว่า การนำเข้ารถหรูผ่านท่าเรือแหลมฉบังแต่ละคัน จะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารการนำเข้าอย่างชัดเจนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการปล่อยรถยนต์ให้แก่เจ้าของ ที่สำคัญจะต้องมีการตรวสอบว่าผ่านการเสียภาษีแล้ว จึงจะนำออกจากคลังได้ โดยยันยันว่ารถหรูทุกคันที่ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง คือรถที่ถูกระบุว่าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งจะถูกนำไปใช้จริง ซึ่งกลุ่มผู้นำเข้ามีทั้งกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่มบุคคลทั่วไป




กำลังโหลดความคิดเห็น