กาฬสินธุ์- “เฉลิม” เดินสายปราศรัยสร้างความปรองดองที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้ทุกสีต้องหยุดสร้างความขัดแย้ง ย้ำจุดยืนต้องเอา ทักษิณกลับประเทศ มั่นใจ 5 มาตราในกฎหมายปรองดองจะทำให้ทุกฝ่ายพอใจถอยคนละก้าว ขณะที่แนวทางแก้ไขไฟใต้กรณีเสนอเลือกตั้งผู้ว่าฯ 3 จังหวัดหรือรวม 3 จังหวัดเป็นนครปกครองตนเอง ยังต้องศึกษาก่อน ยันชัดเจนในวันที่ 13 มิถุนายนนี้
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายและกล่าวปราศรัยในโครงการ สร้างพลังมวลชนให้เป็นพลังแผ่นดิน โดยมีนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย 6 เขตเลือกตั้ง, พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยกลุ่มพลังมวลชน ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านกว่า 3 พันคนเข้าร่วม
การปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิมยังคงแสดงจุดยืนผลักดันกฎหมายปรองดอง 5 มาตรา และพรรคเพื่อไทยต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศตามคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดินสายปราศรัยทั่วประเทศมีเหตุผลเดียวคือ เพื่อสร้างพลังให้ประชาชน ผู้นำในทุกองค์กรมีความแนวแน่ เพื่อร่วมแก้ปัญหาประเทศ เพราะกว่า 7 ปีสังคมไทยเกิดความขัดแย้ง มีปัญหาเลือกสีเลือกข้าง ทำให้ประเทศถดถอยไม่สามารถจะพัฒนาได้เต็มที่ โดยเฉพาะในปี 2558 จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งในกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิกเหล่านี้ไม่มีความขัดแย้ง แต่ประเทศไทยยังขัดแย้งรุนแรง
แนวทางคือ ทุกฝ่ายต้องร่วมกันยุติปัญหาแล้วเริ่มต้นใหม่ เพราะเชื่อว่าใน 5 มาตราซึ่งได้ร่างไปนั้นจะทำให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกัน แต่ในส่วนตัวของพรรคเพื่อไทย และตนพูดเสมอว่าจะต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศให้ได้ คือคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชนในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่หากทำไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะไปบอกประชาชนได้อย่างไร
ขณะที่แนวทางการดับไฟใต้ ซึ่งมีการนำเสนอแนวคิดของรองเลขาฯ สมช. ในการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือรวม 3 จังหวัดเป็นนครฯ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการนำเสนอแนวทาง แต่ยังไม่ได้นำเสนอเป็นโครงสร้าง ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะรู้แน่ชัดว่ามีโครงสร้างอย่างไรในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ แต่ทั้งนี้ หากนำโครงการทั้ง 2 แนวทางมาเสนอ จะต้องถามรัฐบาล ถามกองทัพ และถามประชาชน ว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร แต่ในส่วนตัวทั้ง 2 แนวทางนี้ยังไม่มีความเห็น เพราะเป็นเพียงการนำเสนอแนวทาง ต้องมีการศึกษาให้รอบด้านต่อไป
