จับทันควัน วัยรุ่นโยนโทรศัพท์มือถือข้ามกำแพงเรือนจำกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ - รวบทันควันวัยรุ่นโยนวัตถุต้องสงสัยข้ามกำแพงส่งนักโทษขาใหญ่เรือนจำกาฬสินธุ์ คาดเป็นยาเสพติดหรือโทรศัพท์ แต่ยังหลบหนีไปได้อีก 1 คน ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพโยนโทรศัพท์มือถือเข้าไปให้ขาใหญ่ในเรือนจำ

วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ เนื้อนวล ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ว่า สามารถควบคุมตัวนายประภากร จันทร์ขาว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ถนนโพธิ์ไทร ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะกำลังโยนวัตถุต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือยาเสพติดข้ามกำแพงเข้าไปภายในเรือนจำ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุติดกับถนนสายกาฬสินธุ์-ห้วยสีทน อยู่ข้างกำแพงเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่งสูงกว่า 5 เมตร พบเจ้าหน้าที่เรือนจำกำลังควบคุมตัวนายประภากร ผู้ต้องสงสัยไว้ได้ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน กรม 86 กาฬสินธุ์ หลังถูกเจ้าหน้าที่ขับรถหกล้อปาดหน้าเบียดตกถนน ส่วนของกลางซึ่งเป็นวัตถุต้องสงสัยถูกโยนข้ามเข้าไปในกำแพงแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำกำลังแยกตัวนักโทษและค้นเรือนจำอย่างละเอียดเพื่อหาของกลาง

ล่าสุดพบเป็นโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด 2 เครื่องซุกอยู่ในรองเท้าผ้าใบสีขาว ส่วนยาเสพติดยังหาไม่พบ และผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ก่อเหตุด้วยกันสามารถวิ่งหลบหนีไปได้ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งล่าตัวแล้ว

ทั้งนี้ นายประภากรรับสารภาพว่าวัตถุที่โยนเข้าไปในเรือนจำนั้นเป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งไปซื้อมาจากร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ แล้วนำมาผูกกับรองเท้าผ้าใบ จากนั้นได้โยนเข้าไปให้นักโทษชายคนหนึ่งซึ่งเป็นขาใหญ่ในเรือนจำ โดยได้รับการว่าจ้าง 10,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวภายในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปัญหาการลักลอบโยนโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์นั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้หลายเครื่องแล้ว และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาก็มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์โยนโทรศัพท์มือถือเข้าไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้

ทั้งนี้ หากโทรศัพท์มือถือหลุดรอดการตรวจค้นเข้าไปในเรือนจำจะมีราคาซื้อขายกันอย่างน้อยเครื่องละไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 บาท ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นขาใหญ่ที่เป็นนักโทษคดียาเสพติดเป็นผู้สั่งซื้อเข้าไปไว้ติดต่อกับเครือข่ายข้างนอก