เชียงใหม่จัดสัมมนาหาแนวทางพัฒนา “เวียงกุมกาม” หวังดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือก

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จัดสัมมนาเรื่อง “เวียงกุมกาม” เตรียมหาแนวทางพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ผวจ.ชี้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญต้องหาแนวทางพัฒนาให้เหมาะสม ระบุมอบ มช. ทำการศึกษาก่อนรวบรวมข้อมูลสรุปผลนำเสนอรัฐบาล ยันต้องสอดคล้องประวัติศาสตร์-วิถีชีวิตชุมชน

วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โครงการศึกษาแนวทางการพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2556 ภายใต้โครงการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ ได้จัดการประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็น เพื่อการพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกามขึ้น โดยมีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการสัมมนา

การจัดการสัมมนาดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินการศึกษาแนวทางการพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม มีระยะเวลาการดำเนินการทั้งสิ้น 160 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม และมีแนวทางในการพัฒนาด้านการตลาด และการให้บริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งข้อเสนอแนะและข้อตกลงทางด้านภูมิสถาปัตย์ และสิ่งก่อสร้างสำหรับชุมชนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น และมีศักยภาพ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างยั่งยืน

นายธานินทร์ กล่าวว่า ในปี 2545 ตนซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายอำเภอสารภี มีส่วนร่วมในการจัดการแสดง “เบิกฟ้าศรัทธาเวียงกุมกาม นครโบราณใต้พิภพ” ในปี 25545 ขณะที่ในครั้งนี้ที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีโอกาสที่จะได้ช่วยฟื้นฟู และพัฒนาเวียงกุมกามอีกครั้ง โดยการที่มีแนวคิดเรื่องการพัฒนาเวียงกุมกามนั้น เพราะถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และมีความเป็นมายาวนาน โดยเฉพาะการเป็นเมืองแห่งเดียวที่พญามังรายเป็นผู้ริเริ่มให้สร้างด้วยตนเอง จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จังหวัดเชียงใหม่ควรจะร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างเวียงกุมกามให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และท่องเที่ยว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของจังหวัดเชียงใหม่ในอดีต

นายธานินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า เป้าหมายการพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกามนั้นจะต้องสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของชุมชน รวมทั้งสามารถส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวได้ โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมหารือกันว่าควรจะมีแนวทางในการพัฒนาอย่างไรให้เกิดความเหมาะสม ก่อนที่จะมีการนำเอาความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และผลการศึกษาต่างๆ มาสรุป และนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

ด้านศาสตราจารย์ ดร.สรัสวดี อ๋องสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า แม้เวียงกุมกามจะเป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเมืองเชียงใหม่ แต่ที่ผ่านมา เวียงกุมกามยังไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาพัฒนา หรือบริหารจัดการโดยภาครัฐเหมือนกับเมืองโบราณอื่นๆ อย่างเช่นที่พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย หรือกำแพงเพชร อีกทั้งที่ผ่านมา ยังมีปัญหาจากการขยายตัวของเมืองที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ และการที่มีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่มายาวนาน ซึ่งจะต้องมีการแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมหากจะมีการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในอนาคต

ขณะที่ นายสัมฤทธิ์ ไหคำ นายกสมาคมมัคคุเทศก์ จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หรือ Historical Tourism นั้นเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสนใจในปัจจุบัน ดังนั้น การที่จังหวัดเชียงใหม่มีแนวคิดที่จะพัฒนาพื้นที่โบราณสถานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวก็ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับทิศทางดังกล่าว และน่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด อย่างไรก็ตาม การจะพัฒนาใดๆ ก็ตามนั้นคงจะต้องรับฟังความคิดเห็น และทำการศึกษาอย่างรอบด้าน เพื่อให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการในลักษณะใดได้บ้างที่จะเหมาะสมทั้งต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาดังกล่าว