นครสวรรค์ - เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรลงพื้นที่พิสูจน์กระดูกมนุษย์-วัตถุโบราณกลางทุ่งนาปากน้ำโพ เชื่อเป็นคนยุคหินใหม่ อายุ 2,500-3,000 ปี พร้อมห้ามขุดต่อ ด้านชาวบ้านแห่นำเครื่องเซ่นไหว้ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของกระดูกมนุษย์โบราณ
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กลางทุ่งนาข้างบ้านเลขที่ 25 หมู่ 6 ต.นากลาง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ของนายวสันต์ ขันติวงษ์ ที่ขุดพบโครงกระดุกมนุษย์ รวมทั้งหม้อ ไห กำไลข้อมือโบราณจำนวนมาก ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จากวัดนากลาง 9 รูป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของโครงกระดูก พร้อมทั้งมีการทำพิธีเข้าทรง ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่นำหัวหมู อาหารคาวหวาน ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ มาร่วมทำพิธี
หลังเสร็จสิ้นพิธีเข้าทรง ว่าที่ ร.ต.ปรีชา พลับน้อย นายอำเภอโกรกพระ นายประมวล เสนีย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นากลาง พร้อมเจ้าหน้าที่จากศิลปากรที่ 4 ลพบุรี เข้าตรวจสอบ และหาแนวทางบริหารจัดการวัตถุโบราณ และกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบ
นายเจตน์กมล วงษ์ท้าว นักโบราณคดีชำนาญการ กล่าวว่า จากการสังเกตดูโครงกระดู กและวัตถุโบราณที่ขุดพบ คาดว่าอายุราว 2,500-3,000 ปี อยู่ในยุคหินใหม่ เชื่อว่าบริเวณที่ขุดพบคือที่อยู่ของคนในยุคนั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสมที่จะสร้างที่อยู่อาศัย เพราะมีทั้งภูเขา และแหล่งน้ำขนาดใหญ่
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าจุดที่ขุดพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบใน จ.นครสวรรค์ เพราะพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นหินขัดซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น ขวาน ขวานถาก ขวานมีบ่า จักร สิ่ว ยังมีเครื่องมือเครื่องใช้อื่น เช่น เครื่องปั้นดินเผาประเภทหม้อ ไห จาน ชาม และเครื่องใช้อื่น
หลักฐานสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าวัตถุโบราณที่ขุดพบอยู่ในยุคหินใหม่ คือลักษณะการฝังศพ ซึ่งจะฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาว ภายในหลุมฝังศพมีเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งอาหาร ภาชนะดินเผา ขวานหินขัด และมีเครื่องประดับตกแต่งศพ เช่น กำไล ลูกปัด จี้ที่ทำจากหิน
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่ศิลปากรจะนำรูปภาพแนบรายงานส่งให้กรมศิลปากรพิจารณา พร้อมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นทางอำเภอ หรือ อบต.นากลาง ให้ช่วยหาสถานที่เก็บวัตถุโบราณที่ขุดพบ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ศิลปากรจะลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อทำบัญชีวัตถุโบราณที่ขุดพบ
ด้านว่าที่ ร.ต.ปรีชากล่าวว่า ทางอำเภอจะร่วมกับ อบต.นากลางเก็บรักษาวัตถุโบราณไว้ที่ อบต.นากลาง สำหรับกระดูกมนุษย์จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดนากลาง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้เข้าไปขุดหาวัตถุโบราณเพิ่มเติมอีก