กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านขุดพบกระดูกมนุษย์โบราณ นักโบราณคดีระบุอยู่ในยุคเหล็กอายุกว่า 2,000 ปี ขณะที่ชาวบ้านและคอหวยนับร้อยแห่จุดธูปขอเลขเด็ด
วันนี้ (24 เม.ย.) นายไพบูลย์ มหิพันธุ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ น.ส.สุภาพร ชัยชาญวัฒนา ปลัด อบต.โพนงาม นายประยูร พานสง่า ผู้ใหญ่บ้านโนนไฮ หมู่ 6 ต.โพนงาม น.ส.พิมพ์นารา กิจโชติประเสริฐ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กรมศิลปากร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อำเภอกมลาไสย และผู้นำท้องถิ่น ร่วมกันสำรวจโครงกระดูกมนุษย์ในสวนยางพารา ดงเมืองยาง ใกล้ศาลเจ้าปู่เมืองยาง บ้านโนนไฮ หมู่ 6 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย หลังชาวบ้านขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ
บริเวณดังกล่าวเป็นสวนยางพาราของนายทองอินทร์ มะระคบ อายุ 67 ปี พบชาวบ้านหลายร้อยคน กำลังมุงดูโครงกระดูกมนุษย์ และกราบไหว้บูชาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งโครงกระดูกมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ยาวประมาณ 180-200 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะมองเห็นเป็นบางส่วน ฟันด้านล่างสมบูรณ์หลายซี่ กระดูกแขนมีลักษณะวางพาดบนหน้าอก กระดูกขามองเห็นชัดเจน เหยียดยาวอย่างเป็นระเบียบ
โครงกระดูกหันหัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหลือ แตกต่างจากการฝังศพทั่วไป ซึ่งจะต้องหันหัวไปทางทิศตะวันตก ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าโครงกระดูกนี้เป็นมนุษย์โบราณอายุหลายพันปี และน่าจะเป็นบุคคลสำคัญ เช่น พระภิกษุ ผู้นำ หัวหน้าเผ่า หรือนักรบโบราณ เพราะมีเครื่องประดับ เช่น กำไลข้อมืออีก 1 ชิ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีประชาชนเข้ามาดูจำนวนมาก บางคนก็หยิบจับจนทำให้โครงกระดูกหักเสียหาย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างกรงเหล็กกั้นไว้
จากการสอบถามนายพรมมา มะระคบ อายุ 45 ปี ผู้ที่พบกระดูกเป็นคนแรก กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนเมษายน ตนและภรรยาได้ไปกราบไหว้พระธาตุพนม กระทั่งวันที่ 12 เมษายน หลังกลับจากไหว้พระก็ฝันว่ามีเด็กแต่งตัวเหมือนกุมารมานอนทับร่าง และบอกว่ามีของดีถูกฝังอยู่ในสวนยางพารานายทองอินทร์ มะระคบ ซึ่งเป็นตา รุ่งเช้าตนจึงไปดูก็พบเห็นเศษกระเบื้องจำนวนมาก จึงลองขุดดูก็พบว่าเป็นกระดูกมนุษย์ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ หลังการข่าวแพร่กระจายออกไปก็มีชาวบ้านหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้จำนวนมาก บางคนก็มาขอเลขเด็ด เพราะมีชาวบ้านที่เข้ามากราบไหว้แล้วถูกหวยงวดวันที่ 16 เมษายนหลายราย
น.ส.พิมพ์นารา กิจโชติประเสริฐ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กรมศิลปากร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นโครงการกระดูมนุษย์ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเพศหญิงหรือชาย และพบเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยและที่ฝังศพของคนโบราณช่วงก่อนประวัติศาสตร์หรือยุคเหล็ก ซึ่งเป็นยุคสมัยเดียกับสมัยทวารวดี เมืองฟ้าแดดสงยาง อายุประมาณ 2,000 ปี คาดว่าน่ามีศพที่ถูกฝังอีกอยู่จำนวนมาก
ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้ลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะผลักดันเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ก็จะให้ความช่วยเหลือต่อไป
