ประจวบคีรีขันธ์ - อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งการเจ้าหน้าที่เฉียบขาดให้ถือเอาเรื่องการบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯทั้ง “ประจวบ-ชุมพร” เป็นเรื่องสำคัญ และต้องหยุดการบุกรุกให้ได้ รวมทั้งให้จัดการกับ จนท.ที่เกี่ยวพันรุกป่าด้วย ขณะที่นายอำเภอบางสะพานน้อย ประจวบฯ เตรียมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานบุกตรวจยึดรอบ 2 ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ หลังล่าสุดพบข้อมูลการบุกรุกพื้นที่ไปแล้วกว่า 2 แสนไร่
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยถึงการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพรด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของกลุ่มนายทุนในขณะนี้ว่า ในเรื่องนี้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการสั่งย้ายพนักงานพิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว จำนวน 3 นาย และยังได้มอบนโยบายเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกด้วย ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่า ในส่วนระลอกที่ 2 อาจจะมีการโยกย้ายเจ้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ทั้งในส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งในส่วนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จ.ชุมพร ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ ท่านอธิบดีกรมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังได้กำชับให้ถือเอาการแก้ไขปัญหาเรื่องของการบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร เป็นเรื่องสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นอกจากนี้ ยังได้จัดงบประมาณ จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการทำงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ด้วย
“ต่อไปนี้เราจะต้องป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมโดดเด็ดขาด โดยจะตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกเพื่อทำการรื้อถอนตามมาตรา 25 และดำเนินคดีต่อนายทุนอย่างจริงจัง โดยให้พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงและกันเอาชาวบ้านที่มารับจ้างไว้เป็นพยาน ส่วนปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอนั้น ทางกรมอุทยานฯ จะจัดหาเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม พร้อมเพิ่มหน่วยพิทักษ์ในจุดล่อแหลม และต่อไปต้องมีการดำเนินการฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกบุกรุกอย่างต่อเนื่อง” นายสรัชชา กล่าว
นายสรัชชา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันตนเตรียมที่จะให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มาเสริมการลาดตระเวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งต้องยอมรับว่าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ทั้งส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ถูกบุกรุกไปมากว่า 2 แสนไร่แล้ว ดังนั้น นับจากนี้ต่อไปจึงต้องหยุดการบุกรุกให้ได้
ด้านนายสมพร ปัจฉิมเพชร นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวว่า ในวันที่ 5 มิ.ย.56 ที่จะถึงนี้ จะมีการปล่อยแถวชุดลาดตระเวน จำนวน 7 ชุดๆ ละ 12 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ และทำการลาดตระเวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ และทำข้อมูลว่าจุดใดบ้างที่มีการบุกรุกใหม่ บุกรุกเก่า และจุดใดบ้างที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดแล้วในพื้นที่บริเวณเหมืองยายเอี้ยง บ้านหลังมุก และบ้านท่าใหญ่ บ้านคีรีล้อม ซึ่งถือเป็นจุดวิกฤต
โดยเจ้าหน้าทั้งหมด 7 ชุด จะประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ทหารพรานที่ 1404 หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุร์สีห์ ตชด.ที่ 147 ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพานน้อย และชาวบ้านในพื้นที่ ฯลฯ ที่บริเวณหน่วยพิทักษ์คีรีล้อม อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งเปิดการปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่การบุกรุกทางอากาศ ทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองพลทหารราบที่ 9 และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากพบเจอจุดที่มีการบุกรุกก็จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ 7 ชุด ภาคพื้นที่ดินที่เตรยมไว้เข้าตรวจสอบเป้าหมายทันที