ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผบ.เรือนจำตราด จัดอบรมพัฒนาเพิ่มทักษะผู้ต้องขังหญิงที่กำลังจะพ้นโทษ ให้สามารถปรับตัวอยู่ร่วมในสังคม และไม่หวนกระทำผิด ชี้ปัจจุบันหญิงมีแนวโน้มกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ได้หามาตรการป้องกันการโยนยาเสพติด หรือสิ่งของเข้าเรือนจำ ด้วยการต่อเติมตาข่ายรอบเรือนจำให้สูงกว่ากำแพง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) น.ส.อธิชา เขียวเซ็น ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาเพิ่มและเสริมทักษะชีวิตทางสังคมให้แก่ผู้ต้องขังหญิงก่อนพ้นโทษ ซึ่งจัดขึ้นที่แดนหญิง เรือนจำจังหวัดตราด โดยมีวิทยากรจากสำนักงานตำรวจตะเวนชายแดนที่ 117 และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตราด ร่วมให้ความรู้ และมีผู้ต้องขังหญิงจำนวน 100 คน เข้าร่วมโครงการ
น.ส.อธิชา กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายให้เรือนจำ และทัณฑสถานทุกแห่งจัดทำโครงการดังกล่าวแก่ผู้ต้องขังหญิงที่กำลังจะพ้นโทษให้สอดคลอ้งกับข้อกำหนดสหประชาชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง และมาตรการที่ไม่ใช่การคุมขัง สำหรับผู้กระทำผิดหญิง หรือข้อกำหนดกรุงเทพฯ เพื่อให้มีความมั่นใจในการออกไปเผชิญโลกภายนอก สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก
ทั้งนี้ สังคมปัจจุบันอยู่ในสภาวะแข่งขันต่อสู้ และผู้หญิงมีแนวโน้มกระทำผิดมากขึ้น โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีผู้ต้องขังอยู่ในแดนหญิงกว่า 50% และยังมีคดีเกี่ยวกับการเงิน ซึ่งผู้ต้องขังที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำจะได้รับการปฏิบัติตามข้อกำหนดกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด ยังมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาการโยนยาเสพติด หรือโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งการส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์เข้ามาในเรือนจำจังหวัดตราด ซึ่งที่ผ่านมา มีปัญหามากว่า นอกจากจะเพิ่มมาตรการในการป้องกันพร้อมตรวจสอบเครือข่ายที่มีอยู่ในเรือนจำ ทั้งนักโทษ ญาตินักโทษ และเจ้าหน้าที่ของทางเรือนจำอย่างเข้มงวดแล้ว ยังได้ใช้ตาข่ายต่อเติมรอบกำแพงเรือนจำให้สูงกว่ากำแพงเดิม เพื่อให้มีความสูงมากพอที่จะไม่ให้ผู้ใดโยนสิ่งของเข้ามาได้ และหากพบการกระทำเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องขังรายใดก็จะถูกดำเนินคดีอย่างหนัก
“ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดตราด หากมีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนร่วม หากมีหลักฐานแน่ชัดจะถูกตั้งกรรมการสอบวินัย และดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้ได้มีการตรวจสอบเชิงลึกเกี่ยวกับรายได้ของเจ้าหน้าที่เรือนจำทุกคนว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นการตัดขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ เพราะบุคคลดังกล่าวถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสกระทำผิดได้มากที่สุด และที่ผ่านมา ก็มีเจ้าหน้าที่เรือนจำหลายคนต้องออกจากงานด้วยเหตุผลเหล่านี้” น.ส.อธิชากล่าว