เสียวยกลำ! ฮ.ผู้ว่าฯ-ส่งกำลังบำรุงทหารพราน ต้องจอดฉุกเฉินกลางป่าเชียงราย

เชียงราย - เฮลิคอปเตอร์คณะผู้ว่าฯ นายทหารระดับสูง ฉก.ม.3 สื่อ ยกทีมขึ้นตรวจที่เกิดเหตุ ส่งกำลังบำรุงร้อย ทพ.3180 ที่ปะทะคาราวานขนยานรกกลางป่า ต้องลงจอดฉุกเฉินหลังสภาพอากาศปิด ต้องรอฟ้าเปิดจึงบินต่อได้ คาดกองกำลังติดอาวุธคุ้มกันขบวนขนยาหนีข้ามประเทศไปแล้ว เชื่อเจ็บหลายคน พบรอยเลือดเป็นทางยาว

วันนี้ (2 มิ.ย.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลร้อย ทพ.3108 ฉก.ม.ทพ.31 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ที่ได้ปะทะกับขบวนการค้ายาเสพติดบริเวณชายแดนไทย-พม่า บ้านแม่จันหลวง ม.10 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ห่างจากช่องทางดอยสามเส้าใหญ่บริเวณชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร

เป็นผลทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ศพ ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และหลบหนีไปได้กว่า 20 คน เมื่อเย็นวานนี้ (1 มิ.ย.) โดยได้แวะไปรับฟังบรรยายสรุปจาก พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ รอง ผบ.ฉก.ม.3 พ.อ.วัชพงศ์ แก้วแจ้ง ผบ.ฉก.ทพ.31 ภายในค่ายเม็งรายมหาราช

ฝ่ายทหารได้รายงานเพิ่มเติมว่า ผลการปะทะทำให้เจ้าหน้าที่พบของกลางยาเสพติดที่ตกกระจัดกระจายบริเวณป่าเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเฉพาะช่วงเกิดเหตุพบกระเป๋าตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร พร้อมของกลางยาบ้า 50,000 เม็ด แต่ช่วงเช้าวันนี้ พบกระเป๋า และกระสอบเพิ่มอีก 4 ใบ และกระสอบฟาง 1 ใบ พร้อมถุงเสบียงอีกจำนวนมากคาดว่า กลุ่มนี้เป็นกองกำลังคุ้มกัน และขนยาเสพติดที่จะใช้เวลาในการเดินทางหลายวัน

ส่วนของกลางทั้งหมดตกกระจายอยู่ตามแนวป่าที่ฝ่ายตรงกันข้ามใช้หลบหนี เมื่อนับรวมของกลางยาบ้าทั้งหมดปรากฏว่า เพิ่มขึ้นเป็น 292,000 เม็ด โดยแต่ละห่อมีตรามือจับกันประทับอยู่ด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้าของฝ่ายตรงกันข้าม กระจายตลอดเส้นทาง 1 กิโลเมตร จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และยังคงออกไล่ล่าติดตามจับกุมกลุ่มคนติดอาวุธที่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเชื่อว่า เป็นกลุ่มมูเซอที่รับจ้างขน และคุ้มกันคาราวานยาเสพติดกลุ่มเดิมที่เคยเคลื่อนไหวอยู่ก่อนหน้านี้แล้วต่อไป แต่คาดว่าบางส่วนได้หลบหนีข้ามฝั่งประเทศไปแล้ว โดยมีคนเจ็บหลายคนเพราะมีรอยเลือดเข้าไปในป่าด้วย

จากนั้น นายพงษ์ศักดิ์ และคณะได้เดินทางไปตรวจผลการปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดเหตุ และจะทำการส่งกำลังบำรุงพร้อมเสบียงให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย แต่ปรากฏว่า หลังจากคณะ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายทหารระดับสูง สื่อมวลชน ฯลฯ เดินทางออกจากลานเฮลิคอปเตอร์ หน้า ฉก.ม.3 ภายในค่ายเม็งรายมหาราช ได้ไม่นานพบว่า สภาพอากาศปิด และมีเมฆหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ

เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินไปถึงกลางทางก็ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เนื่องจากนักบินมองไม่เห็นภูมิประเทศจึงเกรงจะเกิดอันตราย นักบินได้ขออนุญาตบินลงจอดฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้ชนภูเขา หรือต้นไม้ตามป่าเขา โดยได้ลงจอดบนเนินเขาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง

อย่างไรก็ตาม ทางคณะได้แจ้งวิทยุไปยังร้อน ทพ.3108 ให้ทำลานบินชั่วคราวเอาไว้รองรับ จนอากาศเปิดทั้งหมดจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักลงมาในช่วงนี้ทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก