เชียงราย - เวที “เพื่อไทย..เพื่ออนาคต เพื่อประเทศไทย” เริ่มแล้วที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อดีต ส.ส.ทรท.ขึ้นเวทีปราศรัยสุดภูมิใจ “รัฐบาลปู” ได้บริหารงบ 5 ล้านล้าน ขณะที่ “อดิศร” บอกรถไฟเร็วสูงต้องทำก่อนค่าก่อสร้างพุ่งเป็น 8.8 ล้าน แถมฟื้นฉากแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ บอกถ้าเป็นตนจะเล่นก้านคอสักที
วันนี้ (1 มิ.ย.) พรรคเพื่อไทย ได้จัดเวทีปราศรัย “เพื่อไทย..เพื่ออนาคเพื่อประเทศไทย” ขึ้นที่หอประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยมีมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นหัวคะแนนของพรรค และมวลชนคนเสื้อแดง ที่ได้รับข่าวสารผ่านฝ่ายปกครองอำเภอต่างๆ และเสียงตามสายของแต่ละหมู่บ้านที่เชิญชวนให้คนร่วมเวทีปราศรัยมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งตามกำหนดการแล้ว จะจัดให้มีการปราศรัยโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จ.เชียงราย ทั้ง 7 คน นำโดยนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานรัฐสภา นำกล่าวปราศรัย และดำเนินรายการโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ก่อนที่แกนนำจากพรรคเพื่อไทย และอดีตนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทย รวมทั้งพรรคพลังประชาชน จะทยอยขึ้นปราศรัยบนเวที เพื่อบอกถึงความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี การใช้งบประมาณของประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท และกรณีการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดอง
จากนั้นจะมีนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวปราศรัย ส่วนช่วงท้ายจะเป็นการปราศรัยเรื่อง “รัฐธรรมมนูญ และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ปราศรัยส่งท้าย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นของการเปิดเวที นางลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักไทย จ.พะเยา และอดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย และนายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย ซึ่งไม่มีชื่อขึ้นกล่าวปราศรัยในตอนแรก ก็ได้เดินทางมาร่วมในเวทีดังกล่าวด้วย
นางลัดดาวัลลิ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกภูมิใจมากที่มีนายกรัฐมนตรีคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนเหนือเหมือนกัน และสามารถเข้าไปบริหารจัดการรัฐบาลทั้งๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ปัจจุบันกำลังจะบริหารงบประมาณกว่า 5 ล้านล้านบาท โดยไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารงานต่อไปประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า และพัฒนา แต่ถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเริ่มมีกระแสข่าวแล้วว่า มีการส่งคนเข้าไปที่กรุงเทพฯ คนเหล่านี้ได้รับการฝึกอย่างดี และมีการหลอกประชาชนไปด้วย จะไปสร้างความวุ่นวายเพื่อสร้างเงื่อนไขการยึดอำนาจ ก็จะทำให้ประเทศล้าหลังอีก
นางลัดดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับตลอดระยะเวลาในการบริหารงาน นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำให้รายได้ของประชาชนมากขึ้น งบรายรับและรายจ่ายของประเทศสมดุลเป็นครั้งแรก แต่เมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารก็มีการขาดดุล และเป็นที่มาของการกู้ยืมเงินมาโดยตลอด ปัจจุบันการตั้งงบประมาณแบบขาดดุลเริ่มลดลงแล้ว และจะกลับมาสมดุลอีกครั้งจากนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ขณะที่นายอดิศร ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า งบฯ 2.2 ล้านล้านบาท มีความจำเป็น และรถไฟความเร็วสูงถ้าไม่ทำอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะกลายเป็น 8 ล้านล้าน รถไฟความเร็วสูงภาคเหนือถึง จ.เชียงใหม่ ภาคอีสานบ้านตนจะพัฒนาในอนาคตถึง จ.หนองคาย และภาคใต้ถึงปาดังเบซาร์ ซึ่งบ้านเมืองเดินไปสู่ความเจริญเติบโต แต่การเมืองของเราไม่นิ่ง ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปปราศรัยหลายประเทศทั่วโลกเรื่องประชาธิปไตย แต่ก็ถูกขัดขาตลอด
“อำนาจนอกระบบเหล่านี้มักทำอย่างนี้ตลอด ตัวอย่างแม้แต่ในสภาผู้แทนราษฎรมีการกระชากเก้าอี้ประธานสภาฯ ถ้าเป็นตนจะเล่นที่ก้านคอสักที หรือด้านการใช้อำนาจปัจจุบัน ตุลาการไปตัดสินหมด ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้ประชาธิปัตย์ เหลือ ส.ส.สัก 25 คน และพรรคเพื่อไทย จะเป็นรัฐบาลต่อไปอีก 16 ปี 4 สมัยด้วย”