xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตรันทด! เด็กหญิงวัย 11 ขวบเมืองน้ำดำยอดกตัญญู เลี้ยงพ่อพิการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ด.ญ.สุภาพร  ญาณสิทธิ์ อายุ 11 ปี หรือ น้องนุ่น กำลังป้อนข้าวที่บรรจุในปิ่นโตที่ได้รับการแบ่งอาหารจากทางโรงเรียนให้กับนายสมบูรณ์  ผู้เป็นบิดา ป่วยเป็นโรคอัมพมานานกว่า 3 ปี เธอต้องรับภาระเลี้ยงดูบิดาตั้งแต่อายุ 9 ปี เป็นภาพที่สุดจะเวทนาแก่ผู้พบเห็น พร้อมวอนหน่วยงานและผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือ
กาฬสินธุ์ - ชีวิตสุดรันทด “น้องนุ่น” นักเรียนหญิงวัย 11 ขวบ ฐานะยากจน แต่ยอดกตัญญู เลี้ยงพ่อพิการเป็นอัมพฤกษ์มานาน 3 ปี ครูสุดเวทนา มื้อเที่ยงแบ่งอาหารกลางวันให้ไปเลี้ยงพ่อ เผยบางวันอดมื้อกินมื้อ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

เรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายในความกตัญญูต่อบุพการี เพราะแม้ชีวิตไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่เลือกตอบแทนคุณบิดาที่ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวมานาน 3 ปี ตั้งแต่ตัวเองอายุแค่ 9 ขวบ จนปัจจุบันย่างเข้า 11 ขวบ ทั้งดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาหาร เช็ดถูร่างกาย

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ว่า น.ส.นลิน นาถ้ำพลอย ครูประจำชั้น ป.5 ต้องการให้ผู้มีจิตกุศลช่วยเหลือลูกศิษย์ คือ ด.ญ.สุภาพร หรือน้องนุ่น ญาณสิทธิ์ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพราะเป็นเด็กที่มีความกตัญญูต่อบิดาที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ด้วยความแร้นแค้นมานานถึง 3 ปี

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของน้องนุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนถึง 2 กิโลเมตร เลขที่ 117 หมู่ที่ 13 ต.ภูดิน ซึ่งก็ต้องพบกับภาพที่สุดจะเวทนา น้องนุ่นกำลังประคองนายสมบูรณ์ ญาณสิทธิ์ อายุ 56 ปี ผู้เป็นบิดาขึ้นมาป้อนข้าวที่ได้รับการแบ่งปันจากทางโรงเรียน พร้อมกับเช็ดตัวให้บุพการีซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์อย่างไม่รังเกียจ

จากการตรวจสอบสภาพบ้านของน้องนุ่นมีสภาพไม่ต่างจากกระท่อมปลายนา กว้าง 2 เมตร ยาว 2.50 เมตร หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า ล้อมตัวบ้านด้วยผ้าใบ กระดาษที่ได้รับการบริจาคจากชาวบ้านที่เวทนาสงสาร มีเพียงนางแสวง ญาณสิทธิ์ อายุ 60 ปี ยายที่แบ่งพื้นที่บ้านให้คอยเลี้ยงดูตามอัตภาพ

น.ส.นลินกล่าวว่า ต้องการที่จะให้ผู้มีจิตกุศลได้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของน้องนุ่น เพราะตนเองได้ติดตามชีวิตของน้องนุ่นมาตั้งแต่เข้าโรงเรียน และเพิ่งจะเกิดปัญหาหนักในช่วง 3 ปีให้หลังเพราะครอบครัวแตกแยก แม่มีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อของน้องนุ่นซึ่งมีอาชีพหาปลาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้เป็นอัมพฤกษ์ ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนก็ทราบข่าวมาตลอด และคอยประคับประคองชีวิตของน้องนุ่นให้ได้รับการศึกษาตามอัตภาพ

แต่มาในระยะหลังเด็กเริ่มขาดโรงเรียน ครูจึงได้เดินทางเข้ามาดูก็พบว่าครอบครัวมีฐานะยากจนมาก จะมีก็เพียงนางแสวง ญาณสิทธิ์ ผู้เป็นยาย คอยดูแลมาตั้งแต่เกิด แต่เด็กที่มีความกตัญญูซึ่งก็เลือกที่จะอยู่กับพ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ทุกวันก็จะเห็นน้องนุ่นต้องรีบกลับบ้านมาป้อนข้าว ป้อนน้ำให้พ่อ เป็นที่น่าเวทนาสงสาร แต่น้องนุ่นเป็นเด็กที่มีความกตัญญูสูง ชีวิตในแต่ละวันจึงไม่ใช่ชีวิตของเด็กอายุ 11 ขวบทั่วไป ไม่มีโอกาสไปเล่นกับเพื่อน หากเป็นวันหยุดก็จะไปรับจ้างคัดปลาบริเวณท้ายเขื่อนลำปาว ได้ค่าแรงครั้งละ 40 บาท นำมาซื้อข้าวปลาอาหารให้พ่อรับประทาน

ส่วนในช่วงวันเรียนปกติก็จะตื่นแต่เช้าไปที่วัดในหมู่บ้านเพื่อรับอาหารจากพระที่ฉันแล้วมากินกับพ่อก่อนที่จะออกไปเรียนหนังสือ ช่วงเที่ยงก็จะรีบนำปิ่นโตไปรับอาหารจากแม่ครัวในโรงเรียน แล้วก็จะรีบปั่นจักรยานกลับบ้านมากินข้าว เช็ดตัวให้พ่อ ขณะที่ในช่วงเย็นก็จะได้รับการสงเคราะห์จากเพื่อนบ้านและยาย ซึ่งวันไหนโชคร้ายก็จะไม่ได้กินข้าว ซึ่งก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา

นายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร กล่าวว่า ต้องการให้ผู้มีจิตกุศลได้เข้ามาช่วยเหลือน้องนุ่นด้วย เพราะจากสภาพที่เห็นเป็นที่น่าอนาถ เป็นชีวิตจริง ที่ผ่านมาก็จะได้ยินแต่ชีวิตของ ด.ญ.วัลลี แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ก็ขอให้ผู้ที่มีฐานะเข้ามาช่วยเหลือด้วย

นายอุดมชัย ชมเชี่ยวชาญ นายกเทศมนตรีตำบลภูดิน กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำได้เพียงช่วยประคับประคอง ที่ผ่านมาก็เคยร้องขอไปยังสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ทั้งที่สภาพบ้านนั้นหากฝนตกทั้งสองพ่อลูกก็จะเปียกฝน

ทั้งนี้ มีรายงานว่านางจารุณี พิมพะนิตย์ ณ นครพนม ส.อบจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานสภาจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งรู้ข่าวได้นำเงินสด 2,000 บาทไปมอบให้ ส่วนนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้สำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเข้าช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้นแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น