ศรีสะเกษ - จนท.ป่าไม้ร่วม ตชด.ปะทะมอดไม้เขมร ผลเขมรดับคาที่ 2 ศพ มีระเบิดเตรียมถล่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย และจับเป็นได้อีก 2 ราย ตะลึงตัดไม้พะยูงกระจายเกลื่อนป่าชายแดนไทย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่บริเวณป่าภูพะยอม ทิศใต้บ้านห้วนจันทน์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ทับซ้อนกับป่าฝั่งขวาห้วยศาลา ต.ห้วยจันทน์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายชัชวาล อินทุมาร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก พร้อมด้วย นายดนุเดช ไชยศรี ปลัดอำเภอขุนหาญ งานป้องกันปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 224 อ.กันทรลักษ์ และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ขุนหาญ เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ หลังกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ปะทะกับกองกำลังติดอาวุธชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนฝั่งไทย
จากการตรวจสอบพบศพชาวกัมพูชาจำนวน 2 ศพอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณลำตัว และภายในกระเป๋าเสื้อพบระเบิดลูกเกลี้ยงพร้อมใช้งาน บริเวณใกล้เคียงพบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 5 ปลอก และพบไม้พะยูงที่ถูกตัดจำนวนทั้งสิ้น 28 ท่อน/เหลี่ยม กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณป่า
ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) เจ้าหน้าที่จับกุมชายชาวกัมพูชาที่หลบซ่อนอยู่ในป่าได้อีก 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายบน บาก อายุ 20 ปี และนายพิชัย ซอม อายุ 19 ปี เป็นชาว จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ชายกัมพูชาที่ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ชื่อนายไว อายุ 50 ปี เป็นหัวหน้ากลุ่มชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในเขตชายแดนฝั่งไทย ส่วนอีก 1 รายที่เสียชีวิต ชื่อนายเหวย อายุ 35 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 ได้ออกลาดตระเวนป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตามแนวชายแดน และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบกองกำลังชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 20-30 คน กำลังพากันตัดไม้พะยูงอยู่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม
แต่ปรากฏว่ากลุ่มที่กำลังตัดไม้ได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงได้เกิดการปะทะกันนานประมาณ 10 นาที และกองกำลังดังกล่าวได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา พอช่วงเช้าของวันที่ 25 พ.ค. เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่ และพบศพชาวกัมพูชาจำนวน 2 ราย และชาวกัมพูชาที่หลบซ่อนอยู่อีกจำนวน 2 คน จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป