กาฬสินธุ์ - จังหวัดเตือนกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเป็น ผรท. ยื่นเอกสารเท็จอีกจะถูกแจ้งความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทันที
วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ผู้คัดกรองพบกลุ่มคนที่อ้างเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) จ.กาฬสินธุ์ พบการยื่นเอกสารเท็จเพื่อขอรับการช่วยเหลือตามสัญญา 66/2523 ถึง 390 ราย โดยแต่ละรายยื่นเอกสารที่คล้ายคลึงกัน ด้วยการแนบใบประกาศหรือวุฒิบัตรที่ผ่านหลักสูตรโครงการสันติสุข หรือการุญเทพ ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมของกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 2 ในอดีต จัดขึ้นให้ ผรท.ที่วางอาวุธเข้าฝึก ซึ่งถือเป็นการรับรองการเป็น ผรท. แต่จากผลของการสัมภาษณ์กลับไม่รู้ที่มาของใบประกาศ และยังยอมรับว่าเป็นเอกสารเท็จนั้น
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่เป็น ผรท.ที่ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือไว้ 4,810 คน และมี 390 รายยื่นเอกสารหลักฐานเท็จ ทางจังหวัดจึงได้ให้โอกาสนำเอกสารกลับคืนไป ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สำหรับผู้ที่ยื่นเรื่องใหม่ หากยังมีการปลอมแปลงเอกสาร และยื่นเอกสารหลักฐานเอกสารเท็จอีกจะไม่เปิดโอกาสให้แล้ว จะให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทันที เพราะถือว่ามีเจตนาทุจริต ทำให้ ผรท.ตัวจริงเสียโอกาส
นายสุวิทย์กล่าวว่า อยากฝากให้ ผรท.ตัวจริงช่วยกันสอดส่องไม่ให้ ผรท.ตัวปลอมเข้ามาแฝงตัวหาผลประโยชน์ เพราะเม็ดเงินที่ช่วยเหลือนั้น หากผ่านการพิจารณาจะมีจำนวนมหาศาล เฉลี่ยรายละ 225,000 บาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่ม ผรท.กาฬสินธุ์แยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกองกำลังทหารหลัก กลุ่มที่สองเป็นฝ่ายเสบียง และกลุ่มที่ 3 เป็นฝ่ายสนับสนุน ดังนั้นต้องตรวจสอบให้รอบคอบ หากพบความไม่ชอบมาพากล หรือแจ้งเอกสารเท็จอีกต้องดำเนินคดีทุกราย
วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ผู้คัดกรองพบกลุ่มคนที่อ้างเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) จ.กาฬสินธุ์ พบการยื่นเอกสารเท็จเพื่อขอรับการช่วยเหลือตามสัญญา 66/2523 ถึง 390 ราย โดยแต่ละรายยื่นเอกสารที่คล้ายคลึงกัน ด้วยการแนบใบประกาศหรือวุฒิบัตรที่ผ่านหลักสูตรโครงการสันติสุข หรือการุญเทพ ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมของกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 2 ในอดีต จัดขึ้นให้ ผรท.ที่วางอาวุธเข้าฝึก ซึ่งถือเป็นการรับรองการเป็น ผรท. แต่จากผลของการสัมภาษณ์กลับไม่รู้ที่มาของใบประกาศ และยังยอมรับว่าเป็นเอกสารเท็จนั้น
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่เป็น ผรท.ที่ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือไว้ 4,810 คน และมี 390 รายยื่นเอกสารหลักฐานเท็จ ทางจังหวัดจึงได้ให้โอกาสนำเอกสารกลับคืนไป ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สำหรับผู้ที่ยื่นเรื่องใหม่ หากยังมีการปลอมแปลงเอกสาร และยื่นเอกสารหลักฐานเอกสารเท็จอีกจะไม่เปิดโอกาสให้แล้ว จะให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทันที เพราะถือว่ามีเจตนาทุจริต ทำให้ ผรท.ตัวจริงเสียโอกาส
นายสุวิทย์กล่าวว่า อยากฝากให้ ผรท.ตัวจริงช่วยกันสอดส่องไม่ให้ ผรท.ตัวปลอมเข้ามาแฝงตัวหาผลประโยชน์ เพราะเม็ดเงินที่ช่วยเหลือนั้น หากผ่านการพิจารณาจะมีจำนวนมหาศาล เฉลี่ยรายละ 225,000 บาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่ม ผรท.กาฬสินธุ์แยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกองกำลังทหารหลัก กลุ่มที่สองเป็นฝ่ายเสบียง และกลุ่มที่ 3 เป็นฝ่ายสนับสนุน ดังนั้นต้องตรวจสอบให้รอบคอบ หากพบความไม่ชอบมาพากล หรือแจ้งเอกสารเท็จอีกต้องดำเนินคดีทุกราย
