เชียงราย - “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” มท.1 เซ็นประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งที่ 4 ของเชียงราย ที่สามเหลี่ยมทองคำ ตั้งแต่ 19 พ.ค.นี้ แถมเปิดได้ถึง 2 ทุ่ม ทั้งที่ไม่เคยมีการค้าใหญ่โต ทำคนสงสัยเอื้อกาสิโนยักษ์ทุนจีนในฝั่ง สปป.ลาว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มีประกาศลงนามโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย วันที่ 3 พ.ค.2556 เรื่องการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-พม่า-สปป.ลาว ฝั่งตรงกันข้ามเป็นเมืองห้วยผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยมีเนื้อหาว่า เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สปป.ลาว เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่าง 2 ประเทศ และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองปี 2522 ประกาศเปิดโดยมีกำหนดเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
การเปิดจุดผ่านแดนถาวรดังกล่าว ได้ส่งผลทำให้ในพื้นที่ จ.เชียงราย มีจุดผ่านแดนเพิ่มมากขึ้นเป็น 4 จุดแล้ว จากเดิมมีด่านฯ อยู่ที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน และท่าเรือ อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว และส่งผลทำให้ อ.เชียงแสน มีจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 จุด รวมทั้งได้รับสิทธิพิเศษกว่าด่านอื่นๆ ที่สามารถเปิดได้ 20.00 น. ขณะที่จุดอื่นๆ จะเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.เท่านั้น
ขณะที่ฝั่งตรงกันข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรที่กำลังเปิดขึ้นนี้ เป็นโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มุทุนดอกงิ้วคำ นำโดยบริษัทจิน มู่ เหมิน จำกัด จากประเทศจีน เนื้อที่ประมาณ 7,500 ไร่ โดยมีสัญญาเช่ากับรัฐบาล สปป.ลาว เป็นเวลา 75 ปี สามารถขยายได้เป็น 99 ปี ปัจจุบันมีการก่อสร้างเป็นโรงแรม บ่อนกาสิโน เขตการค้า ท่าเรือ เขตพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมแปรรูป พื้นที่การเกษตร ฯลฯ และมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นจีน และคนไทย โดยเฉพาะในโซนของบ่อนกาสิโนที่มีการเงินสะพัดมหาศาล และมีการสร้างเป็นด่านสากลเป็นรูปโดมสีทองให้เห็นอย่างชัดเจนจากฝั่งไทยเพื่อรองรับเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ด้านนายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ทางหอการค้าได้ลงพื้นที่ และพบปะกับนักธุรกิจท้องถิ่นแล้ว ทำให้มีข้อสงสัยว่า การเปิดจุดผ่านแดนถาวรใหม่ที่สามเหลี่ยมทองคำดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการค้าชายแดนให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างไร เพราะจุดดังกล่าวไม่ใช่จุดขึ้นลงสินค้าชายแดนที่สำคัญ ดังนั้น เมื่อมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรใหม่จนถึงเวลากว่า 2 ทุ่ม แล้วจุดอื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการค้าจะสามารถเปิดได้หรือไม่ หรือยังคงให้ปิดในเวลา 18.00 น. เช่นเดิม ซึ่งตนจะสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ นายอรรถภัณฑ์ รังษี ประธานที่ปรึกษาชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดน อ.เชียงแสน กล่าวว่า ปัจจุบันชายแดนเชียงแสนมีจุดผ่านแดนถาวรอยู่แล้ว 1 จุด คือ ท่าน้ำหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ไปประจำการอยู่ และมีอาคารสถานที่ชัดเจน ดังนั้น เมื่อมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่สามเหลี่ยมทองคำเพิ่มเติมขึ้นอีก ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สถานะของจุดผ่านแดนที่หน้าที่ว่าการอำเภอจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะจุดผ่านแดนถาวรจะต้องมีเจ้าหน้าที่ไปประจำการอยู่พร้อมสรรพ การจะมี 2 จุดในระยะทางที่ไกลกันไม่ถึง 10 กิโลเมตร จะเป็นไปได้หรือไม่
สำหรับการค้าชายแดนด้าน อ.เชียงแสน มีการค้ากับพม่า ลาว และจีน ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการค้าผ่านท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน และท่าเรือเอกชน โดยเฉพาะท่าเรือพาณิชย์ล้านช้าง หรือห้าเชียง ห่างจากจุดผ่อนปรนที่กำลังจะได้รับการยกสถานะดังกล่าวเล็กน้อย โดยปี 2555 มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น 13,114.66 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 13,626.88 ล้านบาท และนำเข้า 512.22 ล้านบาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นไก่แช่แข็ง เนื้อกระบือแช่แข็ง สุกรมีชีวิต ฯลฯ สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นทับทิมสด เมล็ดทานตะวัน กระเทียม ฯลฯ