ญาติร้องสื่อ นักโทษฝากขังเรือนจำพิษณุโลกแค่ข้ามคืนกลายเป็นศพ

พิษณุโลก - ญาติโร่ร้องสื่อ หลานชายนักโทษฝากขังคดียาบ้า 7 เม็ด แค่ข้ามคืน ถูกนักโทษในเรือนจำจังหวัดซ้อมจนตาย พบรอยเขียวช้ำทั้งข้อมือ-ข้อเท้า ขณะที่ศีรษะ-ใบหน้าบวมจนจำแทบไม่ได้ วอน ผบ.เรือนจำ แจงข้อเท็จจริง

วันนี้ (18 พ.ค.) นายสาคร ทับทิมหิน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ 6 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนว่า หลานชายคือ นายสุรัตน์ สีบุตรา อายุ 31 ปี ที่จับกุมในคดียาเสพติดที่ สภ.บางกระทุ่ม ก่อนถูกนำไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 พ.ค. แต่ปรากฏว่า เวลา 14.00 น. วันรุ่งขึ้น (17 พ.ค.) ทางเรือนจำกฌได้แจ้งมาว่าให้มารับศพ โดยเขาเชื่อว่า หลานายถูกกระทำเกินกว่าเหตุ และผู้คุมละเลยการปฏิบัติหน้าที่

นายสาคร กล่าวอีกว่า นายสุรัตน์ หลานชายของตนเองนั้น ถูกจับดำเนินคดียาเสพติด โดยจากการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 7 เม็ด หลังจากตนและญาติทราบเรื่อง เตรียมตัวเดินทางมาเพื่อจะฟังคำตัดสินของศาล และยื่นเรื่องขอประกันตัว เนื่องจากพ่อ-แม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่ปรากฏว่า เมื่อญาติๆ มาถึงกลับไม่ได้ประกันตัว กลายรับศพออกจากเรือนจำแทน

นางขวัญหล้า อุปจันทร์ อายุ 38 ปี น้าสาวของผู้ตายบอกว่า ตนรู้สึกว่าหลานชาย ถูกกระทำอย่างทารุณ ทั้งข้อมือ และข้อเท้ามีรอยเขียวช้ำ คล้ายกับถูกมัดมือ มัดเท้า ก่อนถูกรุมสกัมจากนักโทษรายอื่นๆ บริเวณศีรษะ ใบหน้า ก็บวมเขียวจนแทบจะจำหน้าเดิมไม่ได้ ตนเอง และญาติๆ ติดใจสงสัยว่า ทำไมเมื่อเกิดเหตุรุนแรง ทางผู้คุมภายในเรือนจำจึงไม่ระงับเหตุ อีกทั้งหลานชายตนเองเป็นเพียงนักโทษฝากขัง ไม่ใช่นักโทษที่ถูกตัดสินในคดีร้ายแรง ไม่น่าจะต้องมีการกระทำที่รุนแรง จึงอยากขอให้ทางเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ตายด้วย

ด้านนายพงษ์มิตร ประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ชี้แจงแก่ทางญาติถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เนื่องจากเป็นเรือนนอนที่นักโทษอยู่รวมกัน 40-50 คน ความคับแคบอึดอัดทำให้มีการเหยียบกันแล้วเกิดการทะเลาะวิวาททำร้ายกันขึ้น ซึ่งจ้าหน้าที่มีน้อยไม่สามารถควบคุมระงับเหตุได้ พอเหตุการณ์สงบก็รีบนำตัวนายสุรัตน์ ส่งโรงพยาบาลอำเภอวังทอง แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

“ทางเรือนจำไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบ พร้อมกักขังผู้ต้องขังห้องเกิดเหตุไว้ จนนักโทษ 2 ราย รับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายผู้ตาย เนื่องจากไม่พอใจถูกเหยียบ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหานักโทษ 2 รายดังกล่าวฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว แต่ในฝั่งของทางญาติติดใจ บอกว่าหลานชายซัดทอดขาใหญ่ค้ายาเสพติด จึงถูกสั่งให้นักโทษรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ดังนั้น ตนจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง”