เชียงราย - เจ้าสัวเชียงแสน รับควายดำ และควายเผือก ที่นำเงินผู้ใจบุญร่วมบริจาคซื้อจากเจ้าของเดิมเข้าโรงเลี้ยงในโครงการพัฒนาที่ดิน “โขงวิว” ชายแดนไทย-ลาวแล้ว
วันนี้ (16 พ.ค.56) นายวชิระ รัศมีจันทร์ นักธุรกิจเจ้าของโครงการโขงวิว บ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่ได้ประกาศตัวเป็นเจ้าภาพในการรวบรวมเงินจากผู้ใจบุญที่ต้องการบริจาคเงินเพื่อนำไปซื้อควาย 2 ตัว อายุ 3 ปีเท่ากัน ซึ่งเป็นควายเผือก 1 ตัว ควายดำ 1 ตัว ที่เจ้าของเดิมคือ นายล้วน จันทร์แปงเงิน อายุ 70 ปี ชาวบ้านทุ่ง ม.2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว ไม่สามารถแบกภาระเลี้ยงดูได้ และไม่อยากขายต่อให้โรงฆ่าสัตว์ ได้นำเงินที่มีผู้ใจบุญบริจาคไปมอบให้กับนายล้วน ตามจำนวนที่ต้องการคือ 65,000 บาท ได้ใช้รถยนต์กระบะไปขนกระบือทั้ง 2 ตัวจากบ้านของนายล้วน แล้วนำไปเลี้ยงร่วมกับม้าและแกะ ของโครงการ
โดยนายล้วน และญาติ ก็ตามไปส่งด้วย เพื่อแนะนำวิธีการเลี้ยงให้เจ้าหน้าที่โครงการฯก่อนจะบอกกล่าว ควายทั้งคู่ว่าไม่ต้องกังวล เพราะรอดชีวิตจากการถูกนำไปฆ่าแล้ว พร้อมกับบอกว่า หากคิดถึงก็จะกลับไปเยี่ยมอีก
นายวชิระ ได้แจ้งให้นายล้วน ทราบว่า หลังจากตนได้บริจาคนำร่องไปก่อนเป็นเงิน 10,000 บาท ต่อมาได้มีผู้ใจบุญทั้งในพื้นที่ จ.เชียงราย และต่างจังหวัด ก็ร่วมบริจาคกันจำนวนมาก จนได้ยอดเงินมากว่า 90,000 บาท จึงงดรับบริจาคไปหลายวันแล้ว
นายวชิระ กล่าวอีกว่า จากนี้จะนำควายทั้งคู่ไปเลี้ยงไว้ที่คอก ซึ่งเตรียมเอาไว้ให้อยู่คู่กันแต่อยู่ในโรงเดียวกับม้า โดยจัดคนเลี้ยงดูอย่างดี มีลำธารด้านหลังโครงการให้ควายทั้งคู่ได้นอนเล่นน้ำ รวมทั้งจะติดป้ายประกาศรายชื่อผู้ร่วมบริจาค และจำนวนเอาไว้อย่างละเอียด ภายในบริเวณที่ใช้เลี้ยงเพื่อให้ผู้ที่บริจาคหรือประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถไปดูได้ต่อไป
“เดิมโครงการมีเพียงม้า แกะ ฯลฯ จากนี้ก็จะมีกระบือเผือกคู่อันเกิดจากการ่วมทำบุญของประชาชนทั่วไปเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย”
สำหรับควายทั้ง 2 ตัว เมื่อถูกขนย้ายไปจากบ้านของนายล้วน ปรากฏว่า มีอาการขัดขืนเพราะจำเป็นต้องใช้รถที่ใช้ขนกระบือไปส่งที่โรงฆ่าสัตว์ ทำให้กระบือทั้งคู่อาจได้กลิ่นผิดปกติหรือมีสัญชาตญานทำให้ไม่อยากขึ้นรถโดยกว่าจะชักลากขึ้นรถได้นายล้วนและเพื่อนบ้านก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร กระทั่งเมื่อสามารถขนย้ายไปยังโครงการโขงวิวสเตชั่นและนำลงจากรถ ปรากฎว่ากระบือทั้งคู่เมื่อพบว่าไม่ได้ถูกนำไปโรงฆ่าสัตว์ก็ไม่ได้ตื่นตัวและให้ความร่วมมือในการชักจูงไปยังจุดต่างๆ ทั้งพาไปกินหญ้า โรงที่ใช้เลี้ยง ลำน้ำห้วยเกี๋ยงซึ่งไหลผ่านหลังโครงการก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ฯลฯ
