คนใจบุญแห่ไถ่ชีวิตควายเผือก เจ้าสัวเชียงแสนนำร่อง

เชียงราย - คนใจบุญทั่วสารทิศร่วมใจทำบุญไถ่ชีวิตควายคู่ หลังเจ้าของเลี้ยงต่อไม่ไหว แต่ไม่ยอมขายเข้าโรงเชือด ล่าสุดนักธุรกิจเชียงแสนนำร่องบริจาค ก่อนใช้โชเชียลมีเดียเผยแพร่จนระดมเงินได้จนครบแล้ว

วันนี้ (14 พ.ค.) รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังนายล้วน จันทร์แปงเงิน อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 บ้านทุ่ง หมู่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประกาศขายควาย 1 คู่ เป็นควายเผือก 1 ตัว และควายดำ 1 ตัว แต่มีเงื่อนไขไม่ให้นำไปชำแหละขายในราคา 65,000 บาทนั้น ปรากฏว่าปัจจุบันยังคงมีพ่อค้าไปติดต่อซื้อเหมือนเดิมโดยให้ราคาสูงกว่าที่ได้ประกาศเอาไว้อีกด้วย แต่นายล้วนไม่ยอมขาย

ขณะเดียวกัน มีผู้ที่สนใจติดต่อไปยังนายล้วนหลายราย แต่ละรายพากันรวบรวมเงินคนละเล็กละน้อยหวังไถ่ชีวิตควายคู่นี้เพื่อให้ผู้ใจบุญนำไปเลี้ยงดู โดยผู้บริหารโขงวิว สเตชั่น ซึ่งประกอบกิจการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เลขที่ 888 บ้านห้วยเกี๋ยง หมู่ 8 ต.เวียง อ.เชียงแสน เสนอตัวที่จะซื้อควายทั้ง 2 ตัว พร้อมเชิญชวนบุคคลอื่นให้ร่วมทำบุญด้วยกัน โดยเริ่มต้นบริจาคนำร่องก่อน 10,000 บาท จากนั้นได้มีการเผยแพร่เรื่องนี้ไปตามโลกออนไลน์

ปรากฏว่า ล่าสุดได้เงินครบ 65,000 บาทแล้ว นายวชิระ รัศมีจันทร์ ผู้บริหารโขงวิว สเตชั่น จึงนำคณะไปติดต่อกับนายล้วน และไถ่ชีวิตควายคู่ดังกล่าวมา และนำไปเลี้ยงรวมกับม้าและแกะภายในโครงการโขงวิว สเตชั่น ใกล้กับกำแพงเมืองเก่าเชียงแสน สามแยกเลี่ยงเมืองหรือบายพาสแล้ว

นายวชิระกล่าวว่า จะเลี้ยงดูควายทั้งคู่อย่างดีเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นที่เลี้ยงเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่เบื้องต้นได้ฝากให้นายล้วนเลี้ยงดูไปพลางก่อน เพื่อใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ในการจัดสถานที่เลี้ยงดูให้เหมาะสมต่อไป

นายล้วนกล่าวว่า นอกจากคนในพื้นที่ให้ความสนใจแล้วยังมีคนต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี โทรศัพท์มาถามและขอซื้อด้วย แต่ตนไม่อยากให้มันไปไกลเพราะตรวจสอบลำบาก เมื่อได้ข่าวว่าเอกชนเชียงรายและคนเชียงรายมีจิตใจกุศลจะไถ่ไปเลี้ยงดูจึงตัดสินใจขายให้ผู้บริหารโขงวิว สเตชั่น และผู้ที่ร่วมกันบริจาค เพราะวันใดอยากพบเจอก็สามารถแวะไปหาได้ จึงโทรศัพท์แจ้งผู้ใจบุญว่าได้ขายให้แล้ว และขอให้ร่วมกันรับพรในความใจบุญดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันก็ขออวยพรให้ผู้ที่นำเลี้ยงดูได้รับกุศลด้วย