สุพรรณบุรี - เกิดเหตุพลุระเบิดสยอง ฉีกร่าง 3 หญิงพี่น้องท้องเดียวกันร่างแหลก บางศพถูกแรงระเบิดกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร บ้านพังเสียหายเละ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี และรอง ผบก. นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เผยเหตุเกิดขณะบรรจุดินระเบิดปิงปองแบบลูกบอล คาดอาจเกิดสะเก็ดไฟในช่วงที่กำลังบรรจุจนทำให้เกิดเหตุสยองขึ้น
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) ร.ต.ท.สมบัติ สาแช ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุพลุระบิดมีคนเสียชีวิตหลายรายที่บ้านบึง หมู่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายทวีชัย พลายชุมพล นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และหน่วยกู้ภัยเณรแก้ว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้น 2 หลัง ถูกแรงระเบิดพังเสียหายทั้งหลัง อุปกรณ์ประกอบระเบิดปิงปองแบบลูกบอล และข้าวของกระจายเกลื่อน และมีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุรวม 3 ราย ประกอบด้วย นางสง่า กุทาพันธ์ อายุ 46 ปี นางสงวน กุทาพันธ์ อายุ 44 ปี และนางสงัด ภาคโพธิ์ อายุ 38 ปี ทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องท้องเดียวกันสภาพร่างกายถูกแรงระเบิดร่างกายแหลกเหลว บางศพถูกแรงระเบิดกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร เสียชีวิตสยอง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านต้นเหตุมาจากบ้าน นางสงัด เลขที่ 133 ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ตรงกลาง ได้รับจ้างนายสำรวย หรือแขก ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานพลุรายใหญ่ อยู่ในพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ โดยรับบรรจุดินปืนที่บ้านร่วมกับ นางสง่า และนางสงวน ซึ่งเป็นพี่น้องกัน โดยก่อนเกิดเหตุร่วมกันนั่งบรรจุดินระเบิดอยู่หลังบ้าน แล้วเกิดระบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น แรงระเบิดฉีกร่างทั้ง 3 คนขาดแหลกเหลวเสียชีวิตสยอง และบ้านเรือนถูกแรงระเบิดพังเสียหาย แต่มีสิ่งน่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่พบเห็น คือ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แขวนไว้ข้างฝาบ้านกลับไม่รับความเสียหายแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านต้นเหตุซึ่งเป็นของนางสงัด ได้รับดินระเบิดมาจากโรงงานผลิตพลุรายใหญ่นำมาประกอบที่บ้านร่วมกับพี่น้องที่เสียชีวิต ก่อนหน้านี้เคยทำมาแล้วแต่หยุดไปได้ระยะหนึ่ง จากนั้นกลับมาทำอีกกระทั่งเกิดเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุคาดว่าดินระเบิดถูกสะเก็ดไฟจนเกิดแรงระเบิดขึ้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสอบสวนสาเหตุที่แท้จริง พร้อมกับตรวจสอบโรงงานในพื้นที่หากไม่มีใบอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ได้เกิดเหตุพลุระเบิดขึ้นหลายครั้งมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายราย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก
ขอบคุณภาพและข่าวจาก "เดลินิวส์" http://www.dailynews.co.th/thailand/204519
