เพชรบุรี - ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ พบงาช้างขนาดใหญ่ริมอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ในพื้นที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชี้เป็นการหักตามธรรมชาติที่มีการต่อสู้กันระหว่างช้างต่อช้าง คาดงาช้างที่หัก ช้างจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากผู้นำท้องถิ่นว่า ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ได้เจองาช้างขนาดใหญ่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 หมู่ที่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ทหารได้นำงาช้างมาไว้ที่ อบต.ป่าเด็ง บริเวณศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ซึ่งเป็นงาช้างขนาดใหญ่ยาว 64 ซม. ความกว้างโดยวัดรอบงาบริเวณที่ใหญ่สุด 28 ซม. น้ำหนัก 4.8 กิโลกรัม สภาพของงาเกือบสมบูรณ์ มีเพียงบริเวณโคนงาที่หักหายไปเล็กน้อยคล้ายปากฉลาม
ร.ท.วรภาส เบ็ญจชาติ ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ หัวหน้าชุดประสานงานอนุรักษ์ช้างป่า ต.ป่าเด็ง เปิดเผยว่า งาช้างดังกล่าว ส.อ.พิษณุ มะม่วงชุม พร้อมทหารอีกจำนวนหนึ่งได้พบระหว่างเข้าไปดูแลพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ในช่วงเวลา 10.25 น. ของวันเดียวกัน เพื่อดูแลช้างไม่ให้ถูกทำร้าย บริเวณที่พบงาช้างอยู่เหนือแปลงหญ้าช้างไปทางทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำประมาณ 300 เมตร โดยงาช้างตกอยู่บนดินมีใบไผ่ปิดเล็กน้อย หลังพบได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมถ่ายภาพบริเวณที่พบเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำงาช้างมาไว้ที่ศูนย์ประสานงานอนุรักษ์ช้างป่า ต.ป่าเด็ง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมาตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมาย
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินทางมาตรวจสอบงาช้างดังกล่าวหลังได้รับแจ้ง เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นงาช้างข้างขวา หักมาไม่น่าจะเกิน 2 อาทิตย์ และจากขนาด น้ำหนัก และความยาวของงา ช้างจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี
และจากการตรวจดูร่องรอยของงาช้างบริเวณที่หักพบว่า งาช้างมีรอยแตกร้าวบริเวณที่หักอยู่แล้ว สันนิษฐานว่าช้างตัวดังกล่าวคงใช้งาในการหาอาหาร หรือต่อสู้กัน จนทำให้งาที่แตกร้าวอยู่แล้วหัก ถือเป็นการหักตามธรรมชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้แจ้งให้ทางหัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระหว่างช้างป่า ต.ป่าเด็ง คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะหัวหน้าศูนย์ได้ทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือ นำไปเก็บรักษาไว้ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเก็บไว้ศึกษา และเป็นมรดกของชาติต่อไป
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน ให้ทราบเพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
