ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสัตหีบ คุม 4 คนงานพม่า บริษัททำอิฐบล็อกใจทมิฬอุ้มฆ่าใช้มีดปลายแหลมยาว 12 นิ้ว กระหน่ำแทงคนงานชาติเดียวกันทิ้งเป็นผีเฝ้าป่ามัน หลังแค้นผู้ตายเมาซ่าใช้ขวดปากฉลามไล่แทง สร้างความเฮี้ยน นุ่งผ้าขาวม้าแดงปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นกลางวันแสกๆ จนต่างพากันหวาดผวา ไร้รถสัญจรผ่านหลังตะวันตกดิน
วันนี้ (6 พ.ค.) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฐปณัธ ชญาณพัฒน์ สว.สส. และชุดสืบสวน ได้ทำการควบคุมตัว นายเย หรือพง เมียน อายุ 38 ปี นายตัน ซอ อายุ 19 ปี นายโชมินคาย อายุ 18 ปี และนายซูกาน หรือยี อายุ 18 ปี สัญชาติพม่า คนงานทำอิฐบล็อก บริษัท วีเค ซัพพลาย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันใช้อาวุธมีดปลายแหลม ความยาว 12 นิ้ว กระหน่ำแทงสังหาร นายเม็ง สัญชาติพม่า อดีตคนงานบริษัทเดียวกัน เข้าที่ลำคอ 3 แผล และหน้าอก 1 แผล เมื่อกลางดึกของวันที่ 23 เม.ย.56 บริเวณไร่มันสำปะหลัง ริมถนนทางเข้าวัดเขาชีจรรย์ ม.11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ โดยผู้ต้องหามีความโหดเหี้ยมมาก ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ทางชุดสืบสวนจึงนำกำลังกันออกติดตามหาข่าว จนทราบตัวคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด เป็นคนงานทำอิฐบล็อก แต่เนื่องด้วยหลังก่อเหตุทั้งหมดได้พากันหลบหนีออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงดักเฝ้ารอคาดว่าผู้ต้องหาจะย้อนกลับมาอีกครั้ง และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดคิด จึงนำไปสู่การจับกุมในที่สุด
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง สืบเนื่องจากขณะที่ทุกคนกำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่หน้าที่พักภายในบริษัท ผู้ตายซึ่งเป็นอดีตคนงานได้ย้อนกลับเข้ามาในสภาพมึนเมา ก่อนเข้ามาหาเรื่องใช้ขวดปากฉลามแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกของนายตัน ซอ จนได้รับบาดเจ็บ ด้วยความโกรธแค้น จึงร่วมกันจับผู้ตายใช้เชือกฟางมัดมือไพล่หลัง ก่อนอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง หมายเลขทะเบียน งจว 523 ชลบุรี มาโยนทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ และลงมือสังหาร โดยนายเย เมียน กับนายตัน ซอ เวียนผลัดกันกระหน่ำแทงคนละ 2 ครั้ง จนเสียชีวิต
ด้านนายชิน สังข์แก้ว กำนันตำบลบางเสร่ เล่าว่า หลังเกิดเหตุมีฆ่ากันตายได้สร้างความชวนขนหัวลุกให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากวิญญาณผู้ตายมีความเฮี้ยน มาปรากฏตัวกลางวันแสกๆ ในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าแดง นั่งอยู่ริมถนนให้ชาวบ้านได้พบเห็นกันบ่อยครั้ง จนมีนักล่าวิญญาณเข้ามาทำพิธีตั้งเครื่องเซ่นเพื่อลองของกับดวงวิญญาณผู้ตาย และเป็นที่ชวนขนหัวลุก เมื่อขณะทำแผนในที่เกิดเหตุมีเครื่องเซ่น และเทียนที่ยังติดไฟอยู่ ประกอบกับอาหารเครื่องเซ่นในจานได้หายไป และน้ำอัดลมในขวดได้ลดหายไปเกือบครึ่ง ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเฮี้ยน ทำให้หลังตะวันตกดินชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวไม่กล้าใช้รถสัญจรผ่านเส้นทางนี้อีกเลย