อ่างทอง - จังหวัดอ่างทอง พบโรงเรียนขนาดเล็กนับสิบโรงเข้าข่ายถูกยุบ ขณะที่ สพป.แก้ปัญหาควบรวมโรงเรียนคู่ขนานแต่ไม่ยุบ ยกอาคารให้ท้องถิ่นใช้ประโยชน์
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานพบอาคารโรงเรียนวัดสุวรรณ ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 1 ปี และมีองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดกรวด เข้าไปใช้อาคารดังกล่าวเป็นที่ทำการแทนอาคารหลังเดิม หลังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมจังหวัดอ่างทอง ย้ายนักเรียน จำนวน 40 คน ไปเรียนร่วมกับนักเรียนที่โรงเรียนวัดตาลเจ็ดช่อ ต.ตลาดกรวด อ.เมือง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม. รวมไปถึงบุคลากรในโรงเรียนที่ต้องไปทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวแทน ทำให้โรงเรียนวัดสุวรรณ อยู่ในสภาพถุกทิ้งร้าง
นายศักดิ์ดา สินธุสุวรรณ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.ตลาดกรวด อ.เมือง อ.อ่างทอง ซึ่งเคยให้บุตรเรียนในโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ให้ลุกหลานเรียนอยู่ที่นี่มีทั้งสิ้นประมาณ 100 กว่าหลังคาเรือน แต่ช่วงหลังมีนักเรียนน้อยลงจนทำให้ต้องย้ายไปเรียนรวมกับวัดตาลเจ็ดช่อ ซึ่งแรกชาวบ้านก็ไม่พอใจแต่ก็เข้าใจในภายหลัง
ขณะที่นางกัลยา มาลัย รอง ผอ.สพป.อ่างทอง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมทำเรื่องดังกล่าวมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำ โดยมีแนวคิดในการที่จะควบรวมโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยให้มาอยู่กับโรงเรียนที่มีนักเรียนมาก แต่จะไม่ยุบโรงเรียน
เช่น ที่โรงเรียนวัดสุวรรณนี้ก็นำนักเรียนมาเรียนรวมกับโรงเรียนวัดตาลเจ็ดช่อ แต่ยังใช้ชื่อว่าเป็นนักเรียนวัดสุวรรณเช่นเดิม แล้วเมื่อนักเรียนชุดดังกล่าวจบการศึกษาไป โรงเรียนก็หยุดการเรียนการสอนโดยปริยาย แต่ก็ยังมีโรงเรียนอยู่ ซึ่งในจังหวัดอ่างทองได้ทำโรงเรียนคู่ขนานลักษณะนี้อยู่ประมาณ 10 แห่ง ในจังหวัดอ่างทองมี ดังนี้
โรงเรียนวัดสุวรรณ รวมกับโรงเรียนวัดตาลเจ็ดซ่อ โรงเรียนวัดเทวราชรวมกับโรงเรียนวัดเยื้อง โรงเรียนวัดไผ่แหลมรวมกับโรงเรียนวัดโบสถ์ และโรงเรียนวัดบางศาลารวมกับโรงเรียนวัดนางเล่ว ส่วนใหญ่โรงเรียนที่จะนำไปควบรวมมีนักเรียนประมาณ 8-20 คนต่อโรงเรียน
“การที่นำเด็กมาเรียนรวมกันนอกจากจะสามารถที่จะสร้างความรู้ให้เด็กได้มากกว่าแล้ว ยังเป็นการสร้างสุขภาพจิตที่ดีด้วย เด็กสามารถมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬาสี การเข้าค่ายลูกเสือ แต่หากยังอยู่กับโรงเรียนเดิมที่มีครูเพียง 1-2 คน ก็จะไม่สามารถที่จะดำเนินการทั้งทางด้านความรู้ กิจกรรมต่างๆได้” รอง ผอ.สพป.กล่าว
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานพบอาคารโรงเรียนวัดสุวรรณ ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 1 ปี และมีองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดกรวด เข้าไปใช้อาคารดังกล่าวเป็นที่ทำการแทนอาคารหลังเดิม หลังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมจังหวัดอ่างทอง ย้ายนักเรียน จำนวน 40 คน ไปเรียนร่วมกับนักเรียนที่โรงเรียนวัดตาลเจ็ดช่อ ต.ตลาดกรวด อ.เมือง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม. รวมไปถึงบุคลากรในโรงเรียนที่ต้องไปทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวแทน ทำให้โรงเรียนวัดสุวรรณ อยู่ในสภาพถุกทิ้งร้าง
นายศักดิ์ดา สินธุสุวรรณ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.ตลาดกรวด อ.เมือง อ.อ่างทอง ซึ่งเคยให้บุตรเรียนในโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่ให้ลุกหลานเรียนอยู่ที่นี่มีทั้งสิ้นประมาณ 100 กว่าหลังคาเรือน แต่ช่วงหลังมีนักเรียนน้อยลงจนทำให้ต้องย้ายไปเรียนรวมกับวัดตาลเจ็ดช่อ ซึ่งแรกชาวบ้านก็ไม่พอใจแต่ก็เข้าใจในภายหลัง
ขณะที่นางกัลยา มาลัย รอง ผอ.สพป.อ่างทอง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมทำเรื่องดังกล่าวมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำ โดยมีแนวคิดในการที่จะควบรวมโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยให้มาอยู่กับโรงเรียนที่มีนักเรียนมาก แต่จะไม่ยุบโรงเรียน
เช่น ที่โรงเรียนวัดสุวรรณนี้ก็นำนักเรียนมาเรียนรวมกับโรงเรียนวัดตาลเจ็ดช่อ แต่ยังใช้ชื่อว่าเป็นนักเรียนวัดสุวรรณเช่นเดิม แล้วเมื่อนักเรียนชุดดังกล่าวจบการศึกษาไป โรงเรียนก็หยุดการเรียนการสอนโดยปริยาย แต่ก็ยังมีโรงเรียนอยู่ ซึ่งในจังหวัดอ่างทองได้ทำโรงเรียนคู่ขนานลักษณะนี้อยู่ประมาณ 10 แห่ง ในจังหวัดอ่างทองมี ดังนี้
โรงเรียนวัดสุวรรณ รวมกับโรงเรียนวัดตาลเจ็ดซ่อ โรงเรียนวัดเทวราชรวมกับโรงเรียนวัดเยื้อง โรงเรียนวัดไผ่แหลมรวมกับโรงเรียนวัดโบสถ์ และโรงเรียนวัดบางศาลารวมกับโรงเรียนวัดนางเล่ว ส่วนใหญ่โรงเรียนที่จะนำไปควบรวมมีนักเรียนประมาณ 8-20 คนต่อโรงเรียน
“การที่นำเด็กมาเรียนรวมกันนอกจากจะสามารถที่จะสร้างความรู้ให้เด็กได้มากกว่าแล้ว ยังเป็นการสร้างสุขภาพจิตที่ดีด้วย เด็กสามารถมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬาสี การเข้าค่ายลูกเสือ แต่หากยังอยู่กับโรงเรียนเดิมที่มีครูเพียง 1-2 คน ก็จะไม่สามารถที่จะดำเนินการทั้งทางด้านความรู้ กิจกรรมต่างๆได้” รอง ผอ.สพป.กล่าว
