ราชบุรี - ตำรวจราชบุรี สกัดจับอดีตผู้ใหญ่บ้านเมืองกาญจนบุรี พร้อมลูกชาย ขับปิกอัพขนแรงงานพม่าแหกด่านตำรวจ
วันนี้ (3 พ.ค.) พ.ต.อ.อิทธิพล ชลายนเดชะ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งทางวิทยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ให้ช่วยสกัดจับรถยนต์ปิกอัพแบบ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 2539 นครปฐม ได้หลบหนีการตรวจค้นจากพื้นที่ อ.โพธาราม ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง โดยมีรถสายตรวจของโรงพักโพธารามไล่ติดตามมา หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อิทธิพล ชลายนเดชะ ผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชิดชัย ป้อชำนิ สวป.ได้รีบนำกำลังออกสกัดทันที
พบรถยนต์ที่รับแจ้งขับมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สงสัญญานให้จอด แต่คนขับกลับเร่งเครื่องขับแหกด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วมุ่งหน้าเส้นทางโพธิ์คู่-หนองเสือ หมู่ 7 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไล่กวดติดตาม พร้อมกับตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางล้อหลังด้านขวา จนรถไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้ พร้อมกับควบคุมตัว นายกฤช แสงอาทิตย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี คนขับรถ พร้อมนายกรรชัย แสงอาทิตย์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเอาไว้
จากการตรวจสอบภายในรถ และที่กระบะท้าย พบชาวต่างด้าว (ชาวพม่า) จำนวน 8 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 5 คน จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมด
จากการสอบสวน นายกฤช แสงอาทิตย์ ให้การรับสารภาพว่า อดีตเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และได้ลาออกจากผู้ใหญ่บ้านมาทำไร่มันสำปะหลัง ต่อมา การทำไร่เกิดปัญหาขาดทุนจึงได้หันมาขนแรงงานชาวต่างด้าวเรื่อยมา เพราะมีรายได้ดี ซึ่งจะทำเดือนละ 4-5 ครั้ง โดยจะได้ค่าขนส่งแรงงานต่างด้าวหัวละ 1,500 บาท ขนจาก อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มาส่งในพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.สมุทรสาคร ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนได้รับชาวพม่าเพื่อจะมาส่งใน อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี แต่เมื่อถึงพื้นที่ อ.โพธาราม พบกับรถยนต์สายตรวจจะเข้ามาขอตรวจค้น จึงขับหลบหนีมาทาง อ.บ้านโป่ง แต่ก็ไปไม่รอดถูกจับกุมตัวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำการตรวจสอบประวัติของ นายกฤช พบว่า เคยถูกจับกุมในคดีขนชาวต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มาก่อนหน้าครั้งหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายกฤช อดีตผู้ใหญ่บ้าน และลูกชาย พร้อมชาวต่างด้าวทั้งหมดไว้ดำเนินคดีต่อไป