บช.น.แถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหามือยิงเด็กอาชีวะย่านบางชันดับคาที่ สามารถจับกุมได้ที่ จ.ราชบุรี พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุพร้อมอาวุธปืนและเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ยังหลบหนีอยู่ ส่วนอีกคดีด้าน บก.น.3 ทำการจับกุมเครือข่ายยาบ้า “โอ๋ นาตับ” พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด และทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดอีกหลายรายการ
วันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นายเรวัฒน์ เพชรอาวุธ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 175 ม.4 ตำบลและอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 222/2556 ลง 3 มี.ค. 2556 และนายชัยวัฒน์ นาคสุข อายุ 40 ปี ที่อยู่ 10/4 ม.1 ต.ท่าบัว อ.โพทะเล จ.พิจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 338/2556 ลง 2 เม.ย. 2556 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 2747 นครสวรรค์ จำนวน 1 คัน ซึ่งใช้ลงมือในวันก่อเหตุ และอาวุธปืน 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บริเวณร้านอาหารแพริมคลอง ม.8 ต.ศรีสุราษฎร์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
พล.ต.ต.นัยวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายณัฐวุฒิ หรือบรีส โพธิศิริ อายุ 17 ปี อย่างอุกอาจกระทั่งถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เหตุเกิดบริเวณถนนพระยาสุเรนทร์ ระหว่างปากซอยพระยาสุเรนทร์ 20 และ 22 แขวงและเขตคันนายาว ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทกันภายในโต๊ะสนุกเกอร์ย่านบางชัน โดยก่อนหน้านี้มีผู้ร่วมก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 3 ราย คือ นายสามาศ จันสีนาค อายุ 51 ปี (ผู้ว่างจ้าง) นางอนัญญา หมื่นวิชิตร อายุ 44 ปี และ น.ส.ชีวรัตน์ ศรีชนะภัย อายุ 33 ปี และหลบหนีอีก 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ร่วมกับ กก.สส.บก.น.4 และ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมทำการสืบสวนจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ได้ภาพคนร้ายและรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้ทางพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายเรวัฒน์ และนายชัยวัฒน์
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2556 เวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายเรวัฒน์ และนายชัยวัฒน์ ได้หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณร้านอาหารแพริมคลอง จ.ราชบุรี ได้เดินทางไปจับกุมตัวทั้งสองพร้อมนำตัวไปตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ คันที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้นำรถคันดังกล่าวไปฝากไว้ที่ร้านอรุณเจริญคาร์แคร์ ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร โดยรถยังคงอยู่ในสภาพเดิมซึ่งตรงกับภาพรถจากกล้องวงจรปิดในขณะที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายเรวัฒน์ให้การว่า ตนนั้นเป็นญาติกับนายสามาศ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้หาคนมาร่วมลงมือฆ่านายณัฐวุฒิซึ่งมีเรื่องกันภายในโต๊ะสนุกเกอร์ย่านบางชัน จากนั้นตนจึงติดต่อเพื่อน คือ นายชัยวัฒน์ ให้มาร่วมก่อเหตุ พร้อมด้วยนายอนุวัฒน์ ชินวงศ์ อายุ 40 ปี (ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่) ซึ่งเป็นผู้ลงจากรถมากระหน่ำยิงซ้ำจนนายณัฐวุฒิเสียชีวิตคาที่ สาเหตุที่รับจ้างวานฆ่าให้นั้นเพราะถือว่าทดแทนบุญคุณให้นายสามาศซึ่งเป็นญาติกัน สืบสวนขยายผลทราบอีกว่ากลุ่มของนายเรวัฒน์และนายชัยวัฒน์ยังเป็นแก๊งลักรถ ทำการโจรกรรมรถในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้วนำรถไปส่งขายประเทศพม่าและลาว ในราคาคันละประมาณ 80,000-100,000 บาท โดยตรวจค้นพบกุญแจรถยี่ห้อต่างๆ ที่ใช้ในการโจรกรรมรถในรถของนายเรวัฒน์
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเรวัฒน์เคยมีคดีร่วมกันลักทรัพย์รถยนต์ ในเวลากลางคืน ท้องที่ สภ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 51 ส่วนนายชัยวัฒน์มีคดีฉ้อโกงประชาชน สภ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 52 อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวนายอนุวัฒน์มือยิงอีกราย ซึ่งออกหมายจับไปแล้วที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีต่อไป
อีกคดี พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผบก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 จับกุมเครือข่ายยาบ้า “โอ๋ นาตับ” คือ นางสุกันยา หรือเอ๋ วรรณสุทธิ์ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด และทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดอีกจำนวนหลายรายการ จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 59/144 หมู่บ้านบุราพันธ์ ถนนสังฆสันติสุข แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากชุมชนสุเหร่านาตับ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานฟื้นฟูยาเสพติดบ้านบังรอนมีการแพร่ระบาดยาเสพติดมาก จึงได้ประสานข้อมูลกับทาง ป.ป.ส.กทม. จนทราบว่าผู้จำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญ คือ นายบรรจง วรรณสุทธิ์ หรือ “โอ๋ นาตับ” จึงนำหมายค้นไปทำการตรวจค้นบ้านพัก พบนางสุกันยา หรือเอ๋ พร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นเครือข่ายของนายบรรจง วรรณสุทธิ์ มีฉายาว่าโอ๋ นาตับ ซึ่งเป็นผู้ค้ารายสำคัญย่านชุมชนสุเหร่านาตับ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นนายบรรจงได้หลบหนีไป นอกจากนี้สำหรับชุมชนสุเหร่านาตับนั้นเป็นย่านชุมชนที่นายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน เคยพักอาศัยอยู่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลงเนื่องจากนำตัวไปฝากขังก่อนหน้านี้แล้ว